(VOVworld) – บทปราศรัยของนายกรัฐมนตรเหงียนซวนฟุ๊กในการประชุมครั้งที่ 1 รัฐสภาเวียดนามสมัยที่ 14 และคำชี้นำในการประชุมนัดแรกหลังการปรับคณะรัฐบาลในระหว่างวันที่ 1-2 สิงหาคมได้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของนายกรัฐมนตรีและสมาชิกรัฐบาลในการสร้างรัฐบาลแห่งการสร้างสรรค์และพัฒนา สุจริต ปฏิบัติและรับใช้ประชาชน ซึ่งได้รับการชื่นชมจากประชามติ

นายกรัฐมนตรเหงียนซวนฟุ๊ก

สาส์นของนายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กในการชี้นำการพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคมมีความชัดเจนมาก เพราะแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบของผู้นำรัฐบาลต่อพรรค รัฐและประชาชน
ไม่ย่อท้อความลำบาก
ผู้นำรัฐบาลให้ข้อสังเกตว่า ประเทศเวียดนามกำลังอยู่ในสภาวการณ์ที่มีทั้งโอกาสและความท้าทาย ซึ่งต้องพัฒนาแหล่งพลังภายในและใช้แหล่งพลังภายนอกเพื่อพัฒนาประเทศอย่างรวดเร็วและยั่งยืน สร้างสรรค์ประเทศให้เจริญรุ่งเรืองและมีสถานะนับวันยิ่งสูงเด่นบนเวทีโลก บนเจตนารมณ์ดังกล่าว นายกรัฐมนตรีได้ยืนยันถึงแนวทางที่เสมอต้นเสมอปลายของรัฐบาลคือ สร้างสรรค์ “รัฐบาลแห่งการ สร้างสรรค์และพัฒนา สุจริต ปฏิบัติและรับใช้ประชาชน” ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญเพื่อเพิ่มคุณภาพให้แก่รัฐบาลชุดใหม่ในการปฏิบัติภารกิจการพัฒนาในระยะปี 2016-2021 ในสภาวการณ์ที่มีความท้าทายต่างๆทั้งภายในประเทศ ระหว่างประเทศและในกระบวนการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก นายบุ่ยวันเกื่อง ผู้แทนรัฐสภาจังหวัดยาลายได้แสดงความเชื่อมั่นว่า “ในสมัยนี้ ภายใต้การชี้นำของนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงใหม่การบริหารราชการเพื่อสามารถรับใช้ประชาชนและสถานประกอบการได้ดีขึ้น นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กได้มีสาส์นที่แสดงถึงความเข้มแข็งในการเปลี่ยนแปลงจากการบริหารเพียงอย่างเดียวไปเป็นการพัฒนาอย่างสร้างสรรค์และรับใช้ประชาชน นี่คือแนวทางใหม่ที่ดีมาก”
เพื่อปฏิบัติเป้าหมายดังกล่าว ในการประชุมครั้งแรกของรัฐบาลชุดใหม่ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายหน้าที่ 10 อย่างให้แก่รัฐมนตรีและสมาชิกรัฐบาล ซึ่งถ้าหากทำได้จะสามารถควบคุมกระบวนการพัฒนาของสังคมได้ โดยก่อนอื่นต้องเร่งจัดทำร่างมติที่กำหนดหน้าที่ของสำนักงานบริหารภาครัฐระดับส่วนกลางบนเจตนารมณ์ รัฐบาลแห่งการสร้างสรรค์และพัฒนา
รัฐบาลแห่งการสร้างสรรค์และพัฒนาหมายความว่าสามารถปฏิบัติการจัดทำกลไก กฏหมายและนโยบายได้อย่างดี ดังนั้น นายกรัฐมนตรีได้สั่งให้กระทรวงและหน่วยงานต่างๆต้องปฏิบัติหน้าที่นี้เป็นอย่างดี โดยต้องเสร็จสิ้นการประกาศมติเกี่ยวกับหน้าที่และโครงสร้างตามแนวทางกระทัดรัดและมีประสิทธิภาพก่อนเดือนตุลาคมปี 2016 เพื่อสามารถดำเนินงานเป็นปรกติโดยเร็ว รัฐบาลใช้กฎหมายเพื่อการบริหารจึงต้องปฏิบัติตามกฎหมายด้วยเช่นกัน ถ้าหากมีการละเมิดกฎหมาย ก็ต้องถูกลงโทษอย่างเด็ดขาดถึงแม้จะเป็นผู้ที่ดำรงตำแหน่งสูงๆก็ตาม
รัฐบาลจะเดินหน้าในการประหยัดค่าใช้จ่ายทางราชการ โดยจะมีความรับผิดชอบต่อการใช้ทรัพย์สินสาธารณะและภาษีของประชาชนอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพและเพื่อประโยชน์ร่วมกันของประชาชนและสังคม
ในด้านเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีได้ให้ข้อสังเกตว่า การบรรลุเป้าหมายการขยายตัวจีดีพีเป็นร้อยละ 6.7 ในปี 2016 เป็นงานที่ยากแต่ยังมีเวลาให้ทุกหน่วยงานพยายามอย่างสุดความสามารถโดยจะไม่ย่อท้อ สำหรับนโยบายการรับและบริหารโครงการลงทุนจากต่างชาติ นายกรัฐมนตรีได้ยืนยันว่า จะตรวจสอบโครงการใหญ่ๆ รวมทั้งคำมั่นเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการถ่ายทอดเทคโนโลยี รัฐบาลจะผลักดันการสร้างฐานะใหม่และพัฒนาสถานประกอบการ โดยเฉพาะสถานประกอบการภาคเอกชน สถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมเพื่อช่วยให้สถานประกอบการเวียดนามสามารถเข้าร่วมห่วงโซ่คุณค่าโลกได้อย่างกว้างลึกและประสบความสำเร็จในตลาดภายในและระหว่างประเทศ

นายเจิ่นหว่างเงิน ผู้แทนรัฐสภานครโฮจิมินห์

ความเชื่อมั่นจากประชามติต่อความตั้งใจในการปฏิบัติของรัฐบาล
การชี้นำอย่างเด็ดขาดของนายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กได้รับคำชื่นชมจากประชามติ ซึ่งนายเจิ่นหว่างเงิน ผู้แทนรัฐสภานครโฮจิมินห์เผยว่า “นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กได้แสดงถึงความมุ่งมั่นทางการเมืองและความรับผิดชอบต่อประชาชน เพื่อสร้างสรรค์รัฐบาลแห่งการปฏิบัติและรับมือแก้ไขปัญหาที่ยากลำบาก รัฐบาลมีสาส์นที่ชัดเจนว่า จะสร้างสรรค์รัฐบาลแห่งการปฏิบัติและโปร่งใส โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีได้สร้างความเชื่อมั่นต่อสถานประกอบการ เพื่อปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนและประกอบธุรกิจ นี่เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การบริหารและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในอนาคตมีความยั่งยืน ผมมีความเชื่อมั่นต่อการบริหารของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลในสมัยนี้”
ส่วนนายหวูเตี๊ยนหลก ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนามได้ยืนยันว่า “หลังจากที่รัฐบาลมีความสมบูรณ์ด้านบุคลากรและอยู่ภายใต้การชี้นำอย่างเด็ดขาดทั้งในด้านแนวความคิด ทัศนะ ระเบียบวินัยและโครงการปฏิบัติของนายกรัฐมนตรี ดูเหมือนว่ามีการสร้างกระแสการเปลี่ยนแปลงใหม่ในการปฏิรูป เพราะสามารถฟื้นฟูความเชื่อมั่นต่อบรรยากาศการประกอบธุรกิจ แม้จะต้องรับมือกับแรงกดดันคือการผลักดันการขยายตัวแต่รัฐบาลยังคงยืนหยัดเป้าหมายปรับเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค ยืนยันทัศนะถือความมีเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคเป็นพื้นฐานให้แก่การขยายตัว โดยไม่วิ่งตามเป้าหมายการขยายตัว”
การตั้งใจปฏิบัติของรัฐบาลและผู้นำรัฐบาลในการใช้โอกาสและความได้เปรียบ แก้ไขข้อบกพร่อง พยายามปฏิบัติอย่างเคร่งครัดและรับใช้ประชาชนเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญ ซึ่งจะมีส่วนร่วมต่อการผลักดันการเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างรอบด้านและอำนวยความสะดวกให้เวียดนามพัฒนาอย่างยั่งยืนและยาวไกลมากขึ้นในอนาคต.