สารและวิสัยทัศน์ของเวียดนามเกี่ยวกับนวัตกรรม
Khuyên + Hoa -  
(VOVWORLD) - ในการสนทนาด้านนโยบายพิเศษในกรอบการประชุมฟอรั่มเศรษฐกิจโลก หรือ WEF ดาวอส ครั้งที่ 55 ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อบ่ายวันที่ 21 มกราคม นายกรัฐมนตรีฝ่ามมิงชิ้งได้ย้ำถึงสารและทัศนะที่เข้มแข็งของเวียดนามเกี่ยวกับนวัตกรรม โดยให้ข้อสังเกตว่า ในยุคแห่งอัจฉริยะต้องพัฒนาปัญญาประดิษฐ์และฐานข้อมูล ซึ่งความสำเร็จของการประชุมได้มีส่วนร่วมเผยแพร่วิสัยทัศน์และศักยภาพการพัฒนาของเวียดนามในศักราชใหม่
นายกรัฐมนตรีฝ่ามมิงชิ้งเข้าร่วมและกล่าวปราศรัยในการสนทนาด้านนโยบายพิเศษในกรอบการประชุมฟอรั่มเศรษฐกิจโลกหรือWEF ดาวอส ครั้งที่ 55 |
ในการสนทนาด้านนโยบายพิเศษในกรอบการประชุม WEF ครั้งที่ 55 นายกรัฐมนตรีฝ่ามมิงชิ้งได้ชี้ชัดว่า รัฐบาลเวียดนามมุ่งมั่นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะและก่อสร้างศูนย์ฐานข้อมูลระดับชาติให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายนนี้
ในยุคแห่งอัจฉริยะต้องพัฒนาปัญญาประดิษฐ์
เวียดนามจะใช้โอกาสจากยุคแห่งอัจฉริยะเพื่อพัฒนาวิทยาศษสตร์เทคโนโลยี นวัตกรรมและปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลเพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาเป็นประเทศพัฒนาและมีรายได้สูงภายในปี2045 ซึ่งในยุคแห่งอัจฉริยะ สถานการณ์การเมืองมีเสถียรภาพ เศรษฐกิจพัฒนาอย่างรวดเร็ว ยั่งยืน สิ่งแวดล้อมได้รับการอนุรักษ์และไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง โดยเฉพาะต้องเร่งพัฒนาปัญญาประดิษฐ์และฐานข้อมูล ดังนั้น เพื่อเตรียมให้แก่ยุคอัจฉริยะ เวียดนามได้เร่งปรับปรุงระเบียบการและกฎหมายที่เอื้อให้นิติบุคคลพัฒนาอย่างเท่าเทียมกันในเศรษฐกิจที่มีหลายภาคส่วนและเน้นพัฒนาปัญญาประดิษฐ์บนพื้นฐานของฐานข้อมูลระดับชาติ โดยมติที่ 57 ของกรมการเมืองพรรคเกี่ยวกับการสร้างก้าวกระโดดในการพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี นวัตกรรมและการปรับเปลี่ยนด้านดิจิทัลเมื่อวันที่ 22 ธันวาคมปี 2024 จะสร้างแรงผลักดันให้แก่การลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาของเวียดนาม โดยรัฐบาลเวียดนามเน้นค้ำประกันลิขสิทธิ์ทางปัญญาเพื่อสร้างกรอบทางนิตินัยที่เท่าเทียมกันสำหรับนักลงทุนต่างชาติด้านเทคโนโลยี
ปัจจุบัน รัฐบาลเวียดนามกำลังมุ่งมั่นส่งเสริมการลงทุน ระดมแหล่งพลังจากทุกภาคส่วนในสังคมและสถานประกอบการเพื่อพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะ โดยคาดว่า จะก่อสร้างศูนย์ฐานข้อมูลระดับชาติให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายนนี้ เวียดนามยังเน้นพัฒนาปัญญาประดิษฐ์บนพื้นฐานของฐานข้อมูลระดับชาติ ส่งเสริมการลงทุนและระดมแหล่งพลังต่างๆสำหรับพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งแม้ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสงครามและกำลังปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ แต่เวียดนามได้มุ่งมั่นพัฒนารุดหน้าและกลายเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนา เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับเครือบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลก เช่น ซัมซุงและ NVIDIA
มีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาระดับโลก
นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ยังได้ย้ำถึงส่วนร่วมที่สำคัญของเวียดนามในการแก้ไขปัญหาระดับโลก เช่น จากการเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและปัญหาน้ำทะเลหนุน เวียดนามให้คำมั่นปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ มุ่งมั่นส่งเสริมการปรับเปลี่ยนสีเขียวและการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมผ่านการพัฒนาโครงการปลูกข้าวคุณภาพสูง คาร์บอนต่ำ 1 ล้านเฮกตาร์เพื่อมีส่วนร่วมค้ำประกันความมั่นคงด้านอาหารโลกและกระตุ้นการขยายตัวสีเขียว ส่วนสำหรับการปรับเปลี่ยนพลังงาน นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เผยว่า เวียดนามกำลังเร่งปรับปรุงกลไกเพื่อระดมแหล่งพลังสำหรับพัฒนาพลังงานหมุนเวียน เดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เพื่อค้ำประกันแหล่งจัดสรรพลังงานสะอาดเพื่อพัฒนาประเทศ ซึ่งสารต่างๆเหล่านี้สอดคล้องกับคำยืนยันของนาง เหงวียนมิงหั่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศก่อนการปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง
“เวียดนามจะเดินหน้ายืนยันบทบาทในการเป็นหุ้นส่วนที่น่าไว้วางใจ เป็นสมาชิกที่กระตือรือร้น มีความรับผิดชอบและมีศักยภาพของประชาคมโลกในยุคอัจฉริยะ มุ่งสู่อนาคตที่เจริญรุ่งเรืองและยั่งยืนในโลก”
ทั้งนี้ สารของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ในการสนทนาด้านนโยบายในกรอบการประชุม WEF ดาวอส ครั้งนี้ได้มีส่วนร่วมเผยแพร่วิสัยทัศน์และศักยภาพการพัฒนาของเวียดนามในศักราชใหม่สู่ประชาคมระหว่างประเทศ.
Khuyên + Hoa