(VOVWORLD) - เมื่อวันที่ 21 มกราคม ฟอรั่มสมัชชารัฐสภาความร่วมมือของประชาคมประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสเกี่ยวกับการเกษตรที่ยั่งยืน ความมั่นคงทางอาหารและการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศซึ่งสภาแห่งชาติเวียดนามเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นในนครเกิ่นเทอได้ออกแถลงการณ์ร่วม ซึ่งได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ในระดับสูงและคำมั่นที่เข้มแข็งของ สส. ของประชาคมประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส รวมทั้งเวียดนามในการส่งเสริมการปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ร่วมมือในการแก้ไขปัญหาและความท้าทายระดับโลกความสำเร็จของฟอรั่มได้มีส่วนร่วมยืนยันถึงการมีส่วนร่วมของเวียดนามในการพัฒนาการเกษตรที่ยั่งยืน ความมั่นคงทางอาหารและการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในประชาคมประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส
ภาพการประชุม (quochoi.vn) |
ฟอรั่มสมัชชารัฐสภาความร่วมมือของประชาคมประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสเกี่ยวกับการเกษตรที่ยั่งยืน ความมั่นคงทางอาหารและการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศซึ่งการที่เวียดนามเป็นเจ้าภาพมีวัตถุประสงค์เพื่อแปรคำมั่นของเวียดนามเกี่ยวกับการส่งเสริมลัทธิพหุภาคีเพื่อแก้ไขปัญหาระดับภูมิภาคและโลก ส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและส่งเสริมนวัตกรรมที่มีความผูกพันกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของประเทศต่างๆในประชาคมประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส
ความสำเร็จที่น่าประทับใจ
พรรคและรัฐเวียดนามกำหนดอยู่เสมอว่า การเกษตรเป็นจุดแข็งของประเทศและเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจ เมื่อปี 2024 มูลค่าการนำเข้าและส่งออกอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ที่ 7 แสน 8 หมื่น 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยภาคการเกษตรอยู่ที่กว่า 6 หมื่น 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการประชุมสรุปหน่วยงานการเกษตรปี 2024 นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ยืนยันว่า
“บทบาทและสถานะของภาคการเกษตรได้รับการยืนยันมากขึ้น พรรคและรัฐรับทราบและชื่นชมการมีส่วนร่วมของภาคการเกษตรต่อความสำเร็จของประเทศ”
ในปี 2024 เวียดนามได้ดำเนินโครงการ “พัฒนาพื้นที่ปลูกข้าวที่มีคุณภาพสูงจำนวน 1 ล้านเฮกตาร์อย่างยั่งยืนและการปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจกในระดับต่ำควบคู่กับการเติบโตสีเขียวในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงจนถึงปี 2030” นี่เป็นโครงการแรกของโลกเกี่ยวกับการปลูกข้าวที่มีคุณภาพสูง 1 ล้านเฮกตาร์ มีการปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจกในระดับต่ำ ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากหุ้นส่วนระหว่างประเทศ ในเวลาที่ผ่านมา รัฐบาล กระทรวงและหน่วยงานต่างๆ ได้พยายามร่วมกับ 12 ท้องถิ่นในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงปฏิบัติโครงการและบรรลุผลงานที่น่ายินดีในเบื้องต้น นาย เจืองแก๋งเตวียน รองประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดโห่วยาง ซึ่งเป็นหนึ่งในท้องถิ่นที่ดำเนินโครงการดังกล่าวเผยว่า
“โครงการนี้ไม่เพียงแต่นำผลประโยชน์โดยตรงมาสู่เกษตรกรและชาวนาเท่านั้น หากยังมีส่วนร่วมต่อการลดผลกระทบในทางลบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเพิ่มมูลค่าของห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืน เราตั้งเป้าหมายจนถึงปี 2025 ดำเนินโครงการในพื้นที่ 128,000 เฮกตาร์ โดยเน้นถึงพื้นที่ที่ได้ปฏิบัติโครงการเปลี่ยนแปลงทางการเกษตรอย่างยั่งยืนหรือ VnSAT”
ในขณะเดียวกัน ในการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เวียดนามเป็น 1 ใน 10 ประเทศที่มุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ภายในปี 2050 เวียดนามกำลังยึดมั่นปฏิบัติยุทธศาสตร์การเติบโตสีเขียว รัฐบาลได้ประกาศใช้นโยบายและยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน ตามผลการสำรวจล่าสุดของบริษัท Gallup ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์และให้คำปรึกษาชั้นนำของสหรัฐ เวียดนามอยู่อันดับที่ 2 ของโลกเกี่ยวกับความพร้อมในการรับมือภัยพิบัติทางธรรมชาติ ดังนั้น อัตราครอบครัวที่พร้อมรับมือภัยพิบัติทางธรรมชาติในเวียดนามสูงถึงร้อยละ 83 ซึ่งสูงกว่าดัชนีเฉลี่ยของโลกที่ร้อยละ 35 ตามรายงานของบริษัท Gallup ความพร้อมนี้มาจากข้อเท็จจริงที่ว่า เวียดนามอยู่ในภูมิภาคที่มักเผชิญภัยพิบัติทางธรรมชาติ ความสามารถในการฟื้นตัวอยู่ในระดับสูง และลงทุนในการจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ดังนั้น เวียดนามจึงสามารถเป็นตัวอย่างให้แก่ประเทศที่มีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้
เวียดนามยืนยันถึงคำมั่นเกี่ยวกับการพัฒนาที่ยั่งยืน
การเกษตรที่ยั่งยืน ความมั่นคงทางอาหารและการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาที่ร้อนแรงและเป็นความท้าทายระดับโลก นี่ยังเป็นความกังวลอันดับต้นๆ ของประชาคมประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส ตลอดจนประเทศสมาชิก รวมถึงเวียดนาม
จากการสานต่อความสำเร็จของกิจกรรมพหุภาคีสมัชชารัฐสภาระดับสูงซึ่งจัดโดยสภาแห่งชาติเวียดนามเมื่อเร็วๆ นี้ ฟอรั่มสมัชชารัฐสภาความร่วมมือประชาคมประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสเกี่ยวกับการเกษตรที่ยั่งยืน ความมั่นคงทางอาหารและการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงการให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆและการเข้าร่วมของเวียดนามต่อปัญหาระดับภูมิภาคและโลก ความสามัคคีและการเดินพร้อมเพื่อการพัฒนาของประชาคมประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสและประเทศสมาชิก
ในฟอรั่ม ประธานสภาแห่งชาติเวียดนาม เจิ่นแทงเหมิน ได้ยืนยันว่า เวียดนามมีความประสงค์ที่จะส่งเสริมความร่วมมือกับประชาคมประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสผ่านการส่งเสริม การสนับสนุนกิจกรรมความร่วมมือในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ การส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สตาร์ทอัพ ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน ประชาสัมพันธ์ภาษาฝรั่งเศส ส่งเสริมความหลากหลายทางวัฒนธรรม และย้ำถึงความมุ่งมั่นของประชาคมประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสในการดำเนินการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อค้ำประกันความกลมกลืนระหว่างความพยายามในการเติบโต การแก้ปัญหาความยากจนและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
“บนเจตนารมณ์ดังกล่าว สภาแห่งชาติเวียดนามได้จัดฟอรั่มนี้เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศต่างๆ ในประชาคมประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสในการสร้างการเกษตรที่ยั่งยืน ค้ำประกันชีวิตความเป็นอยู่ของแต่ละครอบครัวและความมั่นคงทางอาหารของแต่ละประเทศ ควบคู่กับการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั่วโลก ด้วยหน้าที่และบทบาทของสภานิติบัญญัติ รัฐสภาและสมาชิกรัฐสภาทุกคนมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและกำกับดูแลการดำเนินการตามเป้าหมายเหล่านี้”
ฟอรั่มยังแสดงให้เห็นถึงคำมั่นอันแรงกล้าของเวียดนามในการมีบทบาทอย่างแข็งขันในการส่งเสริมความร่วมมือกับกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสในปัญหาสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมถึงการค้ำประกันความมั่นคงทางอาหาร การพัฒนาการเกษตรที่ยั่งยืน และการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ.