(VOVWORLD) - ย้อนอดีตมาอยู่ในช่วง 50 ปีก่อนคือเมื่อปี 1975 ด้วยจิตใจ “ 1 วันเท่ากับ 20 ปี”หน่วยทหารต่างๆ ของกองทัพเวียดนามได้เดินทัพอย่างเร่งด่วนผ่านระยะทางนับพันกิโลเมตรเพื่อไปปลดปล่อยไซ่ง่อน ซึ่งในกลุ่มทหารหน่วยขนส่งลำเลียง มีพันเอก เหงวียนวันนิงห์ อดีตรองอธิบดีที่ดูแลด้านการเมืองของกรมปิโตรเลียมสังกัดทบวงพลาธิการได้ฟันฝ่าอุปสรรคและความยากลำบากอย่างกล้าหาญเพื่อพาทหารราบต่างๆ ไปยังสมรภูมิตามเวลาที่กำหนด
พันเอก เหงวียนวันนิงห์ |
พันเอก เหงวียนวันนิงห์ เล่าว่า เมื่อปี 1975 ช่วงนั้นตนงมียศร้อยโทและเป็นผู้ดูแลด้านการเมืองของกองพัน 75 กรม512 กองพล 571 ซึ่งทำขนส่งลำเลียงเชิงยุทธศาสตร์กองพลแรกของกองทัพประชาชนเวียดนาม โดยมียานพาหนะประมาณ2,600 คัน ในยุทธนาการลุกขึ้นสู้ฤดูใบไม้ผลิปี 1975 ทางกองพลได้รับหน้าที่ทำการขนส่งทหารกองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2 จากภาคเหนือไปเข้าร่วมยุทธนาการโฮจิมินห์ ซึ่งแต่ละกองพันขนส่งลำเลียงต้องรับหน้าที่ขนส่งทหารราบ 1 กรม
“ในช่วงนั้น กองพันของเราต้องใช้รถยนต์ 1,053 คันในการขนส่งทหารของกองทัพภาคที่ 1 จากเมืองหวิงลิงห์ จังหวัดกว๋างจิไปเข้าร่วมยุทธนาการปลดปล่อยไซ่ง่อน โดยรถยนต์แต่ละคันมีพลขับ2 คนขับทั้งวันทั้งคืน กินและนอนบนรถ”
รถยนต์ใช้เส้นทางตามทางทิศตะวันตกของเทือกเขาเจื่องเซินในประเทศลาวในช่วงหน้าแล้งที่อากาศร้อนจัด นาย นิงห์และเพื่อนร่วมรบต้องรับมือปัญหาฝุ่นจากถนนที่ตลบคลุ้งเหมือนหมอกที่แม้รถสองคันอยู่ห่างกันเพียงไม่กี่เมตรแต่ก็ไม่สามารถมองเห็นได้ถึงแม้ขับรถช่วงกลางวันแต่บางช่วงก็ต้องเปิดไฟสูงเพื่อจะได้มองเห็นทาง รถวิ่งต่อเนื่องทั้งกลางวันและกลางคืน หยุดพักเพื่อกินอาหารแบบรวดเร็วแล้วรีบออกเดินทางเพราะต้องเร่งทำเวลา
“ รถของผมและรถคันอื่น ๆ ในกองพันวิ่งผ่านเมืองดึ๊กเหลิบ ซึ่งฝ่ายศัตรูยังคงตรึงกำลังอยู่ได้ขว้างระเบิดมือและมีดสั้นใส่รถ ทำให้รถเสียหาย แต่ก็ไม่มากนัก บางที่มีการซุ่มโจมตีระหว่างทาง ทำให้ยางรถแตกและเพื่อนร่วมรบของเราบาดเจ็บ แต่เราช่วยกันทำแผลและปฐมพยาบาลกันเอง แล้วก็ออกเดินทางต่อ”
นายเหงวียนวันนินห์ยังจำเพื่อนร่วมรบเหงวียนวันถวนที่กล้าหาญและมีไหวพริบในการแก้ปัญหาเพลาพวงมาลัยหักขณะลงเขาช่วยให้สามารถเบรกรถได้ทันโดยอยู่ห่างจากขอบเหวแค่10 เมตรปลอดภัยทั้งคนและรถจากการปฏิบัติอย่างเคร่งครัดและการติดต่อประสานงานคุณนินห์และเหล่าทหารพลขับสามารถเสร็จสิ้นภารกิจขนส่งทหารกองทัพภาคที่1 ไปถึงจุดรวมพลที่สามแยกด่งสว่ายก่อนเวลาที่กำหนด
“พวกเรามีระบบการติดต่อที่เชื่อมโยงตั้งแต่ผู้บังคับกองร้อยไปจนถึงกองพัน กรม หน่วยบัญชาการในระหว่างการเดินทัพและกองบัญชาการหลักของกองพลในแนวหลังโดยใช้วิทยุสื่อสารเพื่อติดต่อและสั่งการ หากตรงไหนเส้นทางใดที่กำลังถูกศัตรูโจมตีหรือมีปัญหาในการเดินทัพ เราจะติดต่อกันเพื่อหาทางแก้ไขตามคำสั่ง ทหารกองทัพภาคที่ 1 ต้องไปถึงด่งสว่ายภายในวันที่ 25 เมษายน แต่เราไปถึงที่หมายก่อนกำหนดถึง 6 วัน”
หน่วยขนส่งลำเลียงพาขบวนทหารเดินทัพอย่างเร่งด่วนไปปลดปล่อยไซ่ง่อน (VNA) |
เวลา 17.00 น. ของวันที่ 26 เมษายนปี1975เสียงปืนโจมตีฐานที่มั่น เนือกจอง จังหวัดด่งนาย ได้ดังขึ้น ซึ่งเป็นการเริ่มต้นดำเนินยุทธนาการณ์โฮจิมินห์ กองพล571 ได้ขนส่งเจ้าหน้าที่และทหารของกองทัพภาคที่ 2 จากทางทิศตะวันออกเข้าสู่สมรภูมิเพื่อโจมตีเป้าหมายต่างๆ ของฝ่ายศัตรู ภายในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง ทหารเวียดนามสามารถเข้าควบคุมพื้นที่บางส่วนของฐานที่มั่นแห่งนี้ได้
ด้วยความมุ่งมั่น “1 วันเท่ากับ20ปี”เคลื่อนทัพรวดเร็วและเร็วยิ่งกว่าเดิมนายเหงวียนวันนิงห์และเพื่อนร่วมรบในหน่วยลำเลียงบนเส้นทางเจื่องเซิน โดยเฉพาะกองพล571 ได้สร้างความสำเร็จที่น่าประทับใจ การที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมขบวนลำเลียงนั้นถือเป็นเกียรติและความภาคภูมิใจสำหรับพันเอกเหงวียนวันนิงค์กับเพื่อนร่วมรบในกองพล571 พันเอก ดิงโกงตี อดีตผู้ชี้นำทางการเมืองของกรมขนส่งลำเลียงทางรถยนต์หมายเลข11 กองพล 571 กล่าวว่า
“ พวกเรารู้สึกตื่นเต้นมาก ก่อนหน้านั้น เราแค่ลำเลียงเสบียงยุทโธปกรณ์และอาวุธจากภาคเหนือไปยังภาคใต้เท่านั้น ซึ่งเต็มไปด้วยความยากลำบาก แต่ตอนนั้นเราได้ขับรถบนทางหลวงหมายเลข 1 และได้ขนส่งทหารราบไปเข้าร่วมยุทธนาการณ์ด้วย จึงตั้งใจรักษาความปลอดภัยให้แก่ทหาร ผลัดกันขับรถโดยไม่หยุดพักส่วนฝ่ายศัตรูถอยหนีอย่างโกลาหล”
จากความมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด ทหารหน่วยลำเลียงทุกนาย รวมทั้งพันเอก เหงวียนวันนิงห์ได้ฟันฝ่าอุปสรรคอย่างอย่างกล้าหาญและได้อุทิศวัยหนุ่มสาวเพื่อชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของประชาชาติ.