เจื่องเซิน เส้นทางเดินทัพที่มีเพียงแห่งเดียว

(VOVWORLD) -เส้นทาง เจื่องเซิน ไม่เพียงเป็นเส้นทางคมนาคมสำคัญที่เชื่อมระหว่างแนวหลังและแนวหน้าเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความปรารถนาในอิสรภาพ เสรีภาพ และความเป็นเอกภาพ เป็นปึกแผ่นของประเทศ
 เจื่องเซิน  เส้นทางเดินทัพที่มีเพียงแห่งเดียว - ảnh 1ขบวนรถลำเลียงเสบียงอาหารและยุทโธปกรณ์จากแนวหลังทางภาคเหนือไปสู่สนามรบทางภาคใต้ (ภาพจากแฟ้มข้อมูล)
 
 

ในภารกิจการรวมประเทศให้เป็นปึกแผ่น เส้นทาง เจื่องเซิน (Truong Son) ได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความอมตะ สะท้อนจิตใจความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ในการต่อสู้เพื่อชัยชนะของประชาชาติเวียดนาม บนเส้นทางแห่งตำนานแห่งนี้ ทหาร เยาวชนอาสาสมัคร และกองกำลังสนับสนุนแนวหน้าได้ฟันฝ่าความลำบากยากเข็ญและอันตรายทั้งปวงเพื่อเปิดทางสร้างถนนเพื่อสนับสนุนการลำเลียงเสบียงอาหารและยุทโธปกรณ์จากแนวหลังทางภาคเหนือไปสู่สนามรบทางภาคใต้ 

เส้นทางเจื่องเซินเปิดใช้งานตรงกับวันเกิดของประธานโฮจิมินห์ 19 พฤษภาคม 1959 จากผืนป่าเจื่องเซินที่กว้างใหญ่ทัพทหารพิเศษ-หน่วยทหาร 559 ได้เริ่มต้นการเปิดเส้นทางสู่ภาคใต้ที่ในตอนแรกๆนั้นยังเป็นเส้นทางที่คดเคี้ยว ลาดชัน เต็มด้วยดินโคลนกับโขดหินแหลม ยานพาหนะหลักที่ใช้ในการเดินทางและขนส่งสิ่งของคือกระพาสะพายหลังและจักรยาน พลตรี หว่างแองต๊วน อดีตรองหัวหน้าฝ่ายการเมืองทบวงเทคโนโลยี กระทรวงกลาโหม เล่าว่า

"ช่วงเริ่มก่อตั้ง กองกำลัง 559 มีเจ้าหน้าที่และทหารเพียง 500 นาย ส่วนเส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่เราได้ใช้เคลื่อนไหวปฏิวัติตั้งแต่สมัยสงครามต่อต้านฝรั่งเศส จึงเรียกกันว่าเส้นทางเดินป่า ในตอนนั้นวีรบุรุษกองกำลังติดอาวุธเหงวียนเวียดซินห์ ทำหน้าที่เป็นทหารสื่อสารและเมื่อคำนวณระยะทางที่เขาเดินทางผ่านเส้นทางนี้ก็อาจเปรียบเทียบเท่ากับการเดินทางหนึ่งรอบโลกได้"

ด้วยความมุ่งมั่น ด้วยจิตใจที่กล้าหาญ กองทัพและประชาชนเวียดนามใช้เครื่องมือที่เรียบง่ายเพื่อขยายถนนหลายสายให้ใหญ่พอสำหรับยานยนต์สามารถผ่านได้ พลตรี หวอเสอ อดีตรองผู้บัญชาการกองพลที่ 12 หนึ่งในทหารเจื่องเซินตอนนั้น กล่าวว่า "ในปี1968 กองทหารที่ 98 ได้เปิดถนนระยะทาง 500 กม. จากเหมื่องหล่อ  จังหวัดแทงฮว้าไปจนถึงจุดเชื่อมต่อสามแยกชายแดนเข้าไปถึงแขวงจำปาสักของลาว ซึ่งกองทัพต้องเดินทางผ่านป่าเขาสูง แม่น้ำลำธารที่ลำบากมาก ในช่วงแรกไม่มีประสบการณ์จึงมีเพียงกองกำลังเยาวชนอาสาพร้อมกับทหารช่างที่ทำงานเคลียร์ถนนเป็นหลัก ต่อมาเราได้ใช้รถปราบดิน รถขุด และวัตถุระเบิดบางชนิดในการเคลียร์ถนน"

 เจื่องเซิน  เส้นทางเดินทัพที่มีเพียงแห่งเดียว - ảnh 2พลตรี หว่างแองต๊วน อดีตรองหัวหน้าฝ่ายการเมืองทบวงเทคโนโลยี กระทรวงกลาโหม

ตามคำกล่าวของพลตรี หวอเสอ หากจำนวนกระสุนระเบิดที่ศัตรูทิ้งลงในพื้นที่ภาคเวียดนามมีมากกว่า 10 ล้านตัน เฉพาะที่เส้นทางเจื่องเซินแห่งนี้ก็โดนระเบิดมากกว่า 4 ล้านตันแล้ว ซึ่งคิดเฉลี่ยทุกๆตารางเมตรของถนนจะมีระเบิดอยู่ประมาณ 5-10 ลูก ซึ่งหน่วยทหารช่างต้องทำงานทั้งวันทั้งคืนเพื่อเก็บกู้กับระเบิดและกลบหลุมระเบิดหลายพันแห่ง  ก่อสร้างสะพานมากกว่า 3,000 แห่ง เพื่อให้การเดินทางมีความสะดวกราบรื่น หลังจากการก่อสร้างเป็นเวลา 16 ปี (1959 – 1975) เส้นทางเจื่องเซินได้รับการพัฒนาด้วยความยาวรวมเกือบ 17,000 กม. ผ่าน 20 จังหวัด  ผ่าน 3 ประเทศเวียดนาม ลาว กัมพูชา เชื่อมโยงพื้นที่ยุทธศาสตร์ ระบบท่อส่งน้ำมัน  ช่วยลำเลียงอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนหลายล้านตัน พร้อมด้วยทหารกว่า 2 ล้านนายเข้าและออกจากสมรภูมิภาคได้ พลตรี เลืองซียุง อดีตผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 12 เล่าว่า "กองกำลังทหารช่างได้มุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่เคลียร์ถนนด้วยทุกวิถีทางแม้จะต้องเสียเลือดเนื้อเพื่อไม่ให้การคมนาคมถูกระงับ เพราะในช่วงนั้นฝ่ายต่อต้านก็ทำการโจมตีด้วยทุกวิถีทางทั้งวันทั้งคืนเพื่อขัดขวางกองทัพและประชาชนเวียดนาม แต่กองทัพเวียดนามได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอันเด็ดเดี่ยวในการปฏิบัติหน้าที่ เมื่อเส้นไหนถูกปิดกั้นก็จะพยายามหาเส้นทางอื่นทดแทน ดังนั้น เส้นทางเจื่องเซิน จึงมีระบบแกนหลักแนวตั้ง 5 สายและแนวนอน 21 สายโดยสามารถเข้าออกภาคใต้ได้ตลอดเวลา"

ในปี 2011 สมาคมบันทึกสถิติเวียดนามได้ประกาศรับรองเส้นทาง เจื่องเซิน เป็นเส้นทางทหารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะเพียงหนึ่งเดียว ซึ่งมีความยาวมากที่สุด สร้างขึ้นในสภาพภูมิประเทศที่ยากลำบากที่สุด โดยมีจุดที่สูงที่สุดเกือบ 2,180 เมตร
นี่ไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นเส้นทางคมนาคมที่สำคัญของเวียดนามในยุคปัจจุบันอีกด้วย จากเส้นทางเดินป่าในยุคสงคราม ถนนสายนี้ได้พัฒนาขยายกลายมาเป็นเส้นทางสายสำคัญที่เชื่อมภาคเหนือและภาคใต้อย่างไร้รอยต่อ สร้างพลังใหม่ให้แก่เศรษฐกิจ กระตุ้นศักยภาพของภูมิภาคและท้องถิ่นต่างๆ ทางภาคตะวันตกของประเทศให้ตื่นตัวเพื่อพัฒนาพร้อมกับประเทศชาติในยุคใหม่./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด