ทหารผ่านศึก หวูวันด๋าว กลับมาที่สนามรบเก่าหลายครั้ง เพื่อค้นหาและรวบรวมอัฐิทหารส่งกลับบ้านเกิด

“อัฐิเพื่อนสหายหลายคนของผมยังอยู่ในป่าเขา ผมยังมีชีวิตอยู่ก็ถือเป็นความโชคดี ผมเป็นคนที่ฝังศพเพื่อนสหาย ดังนั้น การค้นหาอัฐิของเพื่อนสหายไม่เพียงแต่เป็นน้ำใจเท่านั้น หากยังมีความหมายจิตทางวิญญาณอีกด้วย”

นี่คือความในใจของทหารผ่านศึก หวูวันด๋าว ตำบลกาวเยือง อำเภอแทงอวาย กรุงฮานอย เขา เกณฑ์ทหารเมื่อปี 1972 เคยสู้รบที่สนามรบเถื่อเทียนเว้ หลังสงคราม เขาได้กลับมาที่สนามรบเก่าหลายครั้ง เพื่อค้นหาและรวบรวมอัฐิทหารส่งกลับบ้านเกิด  ซึ่งการค้นหาอัฐิทหารของทหารผ่านศึกอย่างเช่นนาย หวูวันด๋าว ประสบความยากลำบากมากมาย 

“เราต้องข้ามแม่น้ำและลำธาร มีบางครั้งเราคิดว่า เดินไม่ไหวเนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัดในภาคกลาง แต่ด้วยความตั้งใจที่ต้องการค้นหาอัฐิทหาร เราจึงพยายามอย่างเต็มที่”

ทหารผ่านศึกหลายคนสงวนเวลาและพลังเพื่อค้นหาอัฐิทหารพลีชีพเพื่อชาติ

ก็เหมือนกับนาย หวูวันด่าว  ทหารผ่านศึก หวูหงอกบุ๊ด เขตด๊งดา กรุงฮานอย ที่ทำการค้นหาอัฐิทหารในตลอด 16 ปีที่ผ่านมา เมื่อมีเวลาว่าง  นาย หวูหงอกบุ๊กได้ร่วมกับเพื่อนสหายและญาติมิตรของทหารพลีชีพเพื่อชาติได้กลับไปที่สนามรบเพื่อค้นหาอัฐิทหารและส่งอัฐิทหาร 2 นายกลับบ้านเกิด 

“สงครามดุเดือดมาก เราคิดถึงเพื่อนสหายที่ได้ร่วมกันต่อสู้ กิจกรรมการค้นหาอัฐิของเพื่อนสหายจะมีขึ้นเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์ ทำให้เราจดจำเรื่องราวที่น่าซาบซึ้งใจมาก”

ส่วนนาย เหงวียนแถ่งติ๊น ทหารผ่านศึกในกรุงฮานอยได้ร่วมกับกลุ่มเพื่อนร่วมรบกองพล 5 จัดกิจกรรมการค้นหาอัฐิหาร ซึ่งการค้นพบอัฐิทหารช่วยให้เขารู้สึกสบายใจมากขึ้น 

“จนถึงขณะนี้ อัฐิของเพื่อนสหายหลายนายยังอยู่ในป่าเขา ดังนั้น จึงทำการค้นหาและส่งอัฐิทหารกลับบ้านเกิด นี่คือน้ำใจและความสุขของพวกเรา”

 ครอบครัวทหารพลีชีพเพื่อชาติกำลังค้นหาอัฐิของญาติมิตรอย่างไม่เหน็ดเหยื่อย ซึ่งทหารผ่านศึกหลายคนได้สงวนเวลาและพลังเพื่อค้นหาอัฐิทหารพลีชีพเพื่อชาติ ซึ่งเป็นวิธีเพื่อแสดงความสำนึกถึงเพื่อนสหายที่ได้สละชีพเพื่อชาติ.