ทหารบนเรือ 561

เรือ 561 ไม่เพียงแต่เป็นยานพาหนะสำหรับการขนส่งเท่านั้น หากยังเป็นที่พึ่งทางการแพทย์บนทะเลอีกด้วย เรือลำนี้ได้รับการออกแบบอย่างทันสมัย ตัวเรือมีความยาวเกือบ 71 เมตร กว้างกว่า 13 เมตรและมีระวางบรรทุกมากกว่า 2,000 ตัน มีการติดตั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์อย่างครบครัน มีเตียงผู้ป่วยมากกว่า 20 เตียง ห้องฟื้นฟู ห้องอัลตราซาวด์ ห้องเอกซเรย์และห้องปรับความดันสำหรับรักษาอุบัติเหตุจากการดำน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระบบ Visat รับสัญญาณจากดาวเทียม Vinasat ช่วยให้สามารถปรึกษาได้โดยตรงกับแพทย์ของโรงพยาบาลทหาร 175 และผู้เชี่ยวชาญบนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งนี่เป็นการนำบริการทางการแพทย์คุณภาพสูงไปสู่เขตทะเลที่ห่างไกล พันโท ดว่าน วัน ยวน รองหัวหน้าฝ่ายการเมืองของกองพลเรือ 955 ได้ย้ำถึงภารกิจหลักของเรือว่า

“เรือ 561 เป็นเรือพยาบาลที่ปฏิบัติภารกิจต่างๆ รวมทั้งการรับและส่งคณะ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เรือ 561 ยังได้ปฏิบัติภารกิจตรวจรักษาโรคให้แก่ทหารและประชาชนบนหมู่เกาะเจื่องซาและแท่นตรวจการทางทะเล ซึ่งถือเป็นภารกิจสำคัญของเรือและของกองพลเรือ 955”

เรือ 561 (ภาพจาก Trần Thành)

ในแต่ละปี เรือ 561 จะปฏิบัติภารกิจ 5–10 ครั้ง ทำการปฐมพยาบาลฉุกเฉินช่วยชีวิตชาวประมงประมาณ 500 คน และตรวจรักษาโรคให้แก่ทหารและประชาชนกว่า 2,000 คน  ดังนั้น ถึงแม้จะอยู่ห่างจากแผ่นดินใหญ่นับร้อยไมล์ทะเล ทุกคนก็ยังได้รับการดูแลรักษาอย่างทันท่วงที เจ้าหน้าที่และทหารบนเรือต่างถือทหาร ประชาชนบนเกาะและชาวประมงเป็นญาติของตนโดยให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่และเสร็จสิ้นภารกิจ และนอกจากภารกิจดูแลด้านการแพทย์ เรือ 561 ยังทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมที่พาคณะปฏิบัติงานของพรรคและรัฐออกไปเยือนหมู่เกาะเจื่องซา นำความไว้วางใจและความหวังจากแผ่นดินใหญ่มาสู่หมู่เกาะ ร้อยเอก เหงวียนจุงแถ่ง ผู้ดูแลฝ่ายการเมืองบนเรือ 561 กล่าวว่า

“จุดเด่นในหลายปีที่ผ่านมาของเรือ 561 คือ เสร็จสิ้นหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐและกองทัพ โดยเฉพาะกองทัพเรือเวียดนามให้ลุล่วงไปด้วยดี ทั้งการพาคณะปฏิบัติงานออกไปเยือนหมู่เกาะและการดูแลและรักษาโรคให้แก่ทหารและประชาชนบนหมู่เกาะ เรามีความภาคภูมิใจเป็นอย่างมากที่ เรือ 561 ได้รับหนังสือชมเชยจากกองบัญชาการทหารเรือและกองทัพเรือภาคที่ 4”

ดูแลสุขภาพให้แก่ประชาชนในหมู่เกาะ เจื่องซา

ด้วยคำขวัญ “ดูแลอย่างรอบคอบ ให้ความเคารพและมีไมตรีจิต” ทุกครั้งที่ออกเดินทาง ทหารบนเรือ 561 ต่างให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ต่อความปลอดภัยของคณะ นายแพทย์ เหงวียนเตินจาง ได้กล่าวด้วยความทราบซึ้งใจที่ได้ไปหมู่เกาะเป็นครั้งแรกและได้เข้าร่วมกิจกรรมที่มีความหมายมากมายต่างๆ ว่า

“ผมรู้สึกทราบซึ้งใจมาก จากการไปเยี่ยมเยือนและพูดคุยกับทหารบนเกาะ โดยเห็นได้ความมุ่งมั่นตั้งใจของทหารทุกนายว่าต้องปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จ แน่นอนว่า การเยือนหมู่เกาะในแต่ละครั้งนี้จะเป็นการให้กำลังใจต่อทหารทุกนายในการปกป้องเขตทะเลและหมู่เกาะของปิตุภูมิ”

พาคณะปฏิบัติงานของพรรคและรัฐออกไปเยือนหมู่เกาะเจื่องซา (ภาพจาก Trần Thành)

ในจำนวนทหารที่ทุ่มเทบนเรือ ต้องกล่าวถึงพันตรี เหงวียนวันทั้ม หัวหน้าห้องเครื่อง พันตรี เหงวียนเด๋าเจื่อง เจ้าหน้าที่ดูแลฝ่ายสื่อสาร พันโท เจิ่นวันหงอก พยาบาลประจำเรือ เป็นต้น เมื่อพูดคุยกับนายทหารรุ่นใหม่ บุ่ยแองต๊วน อายุ 26 ปี ดูแลเครื่องกลไฟฟ้าของเรือ ซึ่งมีทั้งพ่อและแม่เป็นทหารเรือ โดยคุณพ่อคือนาย บุ่ยหวิงถวี ที่มีประสบการณ์มากกว่า 30 ปีบนเรือ 571 และเรือสนับสนุนเรือดำน้ำ แองต๊วนได้โตขึ้นพร้อมกับความคิดแบบทหารเรือ หลังจากจบสถาบันกองทัพเรือที่เมืองญาจาง แองต๊วนได้รับมอบหมายไปทำงานที่กองพลเรือ 955 และตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว เขาได้ย้ายมาปฏิบัติภารกิจบนเรือ 561 ทำงานในแผนกที่ 5 ซึ่งเปรียบเสมือนหัวใจของเรือ

“เมื่อทำงานในสภาพเฉพาะแบบนี้ แน่นอนว่า คนส่วนใหญ่ภูมิใจมาก ผมก็เช่นกัน โดยจะปฏิบัติภารกิจนี้ต่อไป พ่อของผมเป็นทหารเรือมากว่า 30 ปี ผมก็อยากทำได้เช่นนั้น โดยจะพยายามอุทิศตนให้มากที่สุด”

พรรคสาขาเรือ 561

แม้ต้องเผชิญกับความยากลำบากต่างๆ เช่น ไม่ค่อยได้กลับบ้านและสภาพแวดล้อมการปฏิบัติหน้าที่ที่เปลี่ยนแปลงตลอด แต่ภาพของพ่อยังถือเป็นแรงบันดาลใจให้เขาพยายามฟันฝ่าอุปสรรค ซึ่งภาพจำที่ทหารเรือช่วยกันวิดน้ำออกจากเรือท่ามกลางคลื่นลมแรงเป็นสิ่งที่สอนเกี่ยวกับการสามัคคีเพื่อปฏิบัติภารกิจร่วมกัน นายทหารหนุ่มอย่าง แองต๊วน ถือว่า เป็นผู้ที่เชื่อมโยงอดีตอันรุ่งโรจน์กับอนาคตอันสดใสของกองทัพเรือเวียดนาม

พักผ่อนหย่อนใจ (ภาพจาก Trần Thành)

ท่ามกลางท้องทะเลอันกว้างใหญ่ เจ้าหน้าที่ทหารบนเรือพยาบาลหมายเลข 561 ต่างเปี่ยมไปด้วยความรักและจิตใจที่เข้มแข็ง ซึ่งถือเป็นแรงผลักดันให้ชาวประมงออกทะเลได้อย่างมั่นใจ ช่วยให้ทหารที่ประจำการบนเกาะห่างไกลสามารถปกป้องอธิปไตยอันศักดิ์สิทธิ์ของประเทศได้อย่างมั่นคงง ทะเลและเกาะแก่งทุกแห่งยังคงเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถแยกออกจากปิตุภูมิได้ และเป็นแรงกระตุ้นให้เหล่าทหารและประชาชนมุ่งมั่นสานต่อภารกิจการปกป้องประเทศเวียดนามที่เข้มแข็งและเจริญรุ่งเรือง.