ผลิตภัณฑ์ของนาง กิมถิโซเดย์

กระบวนการ “สตรีเรียนศึกษาและทำงานอย่างสร้างสรรค์ สร้างครอบครัวอย่างมีความสุข” ได้รับการเผยแพร่อย่างกว้างขวาง ซึ่งช่วยปลุกพลังใจแห่งการประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพให้กับสมาชิกสหพันธ์สตรีจังหวัดจ่าวิงนับหลายพันคน

เมื่อ 6 ปีก่อน นาง กิมถิโซเดย์ อาศัยในอำเภอโก่วเก ตัดสินใจเริ่มธุรกิจสตาร์ทอัพด้วยการแปรรูปมะพร้าวแก้วโดยใช้น้ำตาลกรวดแทนน้ำตาลทรายเพื่อให้ได้ความหวานที่กำลังพอดี ซึ่งปัจจุบัน มียอดการผลิตและจำหน่ายมะพร้าวแก้วเฉลี่ยอยู่ที่ 300 กิโลกรัมต่อเดือน โดยขายที่ราคา 400,000 ด่งต่อกิโลกรัม จนถึงปี 2022 เขาเองได้ลงทุนผลิตมะพร้าวกะทิแช่แข็ง โดยหลังจากรับซื้อมะพร้าวกะทิสดแล้ว จะแกะเปลือกออกเพื่อเอาส่วนเนื้อข้างในไปบรรจุสูญญากาศแล้วแช่แข็ง ปัจจุบัน ยอดขายมะพร้าวกะทิแช่แข็งอยู่ที่ประมาณ 200 ลูก ซึ่งสร้างกำไรหลายล้านด่งต่อเดือน

นางกิมถิโซเดย์ (คนที่ 2 จากซ้าย)

ส่วนเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ผลิตภัณฑ์มะพร้าวแก้วและมะพร้าวกะทิแช่แข็งได้รับการรับรองเป็นผลิตภัณฑ์ OCOP ระดับ 3 ดาว ซึ่งช่วยทำให้ผลิตภัณฑ์ของเขาเป็นที่รู้จักในตลาดมากขึ้นและมียอดขายเพิ่มขึ้น

“ฉันรู้สึกโชคดีที่ตัวเองเกิดในพื้นที่ที่มีการปลูกมะพร้าวกะทิที่อุดมสมบูรณ์ ถ้าหากขายแต่ลูกมะพร้าวกะทิสดเพียงอย่างเดียว มูลค่าอาจไม่สูงมากนัก ดังนั้น ฉันจึงมุ่งมั่นตั้งใจสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่ามากขึ้นคือมะพร้าวแก้ว ส่วนน้ำมะพร้าวจะถูกนำไปแปรรูปเป็นวุ้นมะพร้าวแช่เย็นและเครื่องดื่มต่าง ๆ เพื่อจำหน่าย”

สำหรับนาง เซินถิดานี ชนเผ่าเขมรที่อาศัยในตำบลบิ่งฝุ๊ อำเภอก่างลอง ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทสาขาวิศวกรรมเคมี เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างดีเด่นในการประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว เธอได้เริ่มการวิจัยเพื่อผลิตธูปจากขมิ้น โดยนาง ดานี ได้แปรรูปลำต้นและใบขมิ้น ซึ่งเป็นสิ่งเหลือทิ้งหลังการเก็บเกี่ยว ให้กลายเป็นธูปขมิ้นที่มีกลิ่นหอมและไม่มีสารอันตราย ซึ่งหลังดำเนินกิจการเป็นเวลา 3 ปี ครอบครัวของเธอมีกำไรหลายสิบล้านด่องต่อปี

“สำหรับขมิ้นขาวจากโก่วแก่ ทั้งรากและใบล้วนมีกลิ่นหอมธรรมชาติ โดยเฉพาะควันธูปที่ทำจากขมิ้นชนิดนี้ไม่มีสารอันตราย เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ไนโตรเจนไดออกไซด์ ยิ่งไปกว่านั้น ในธูปยังมีสารต้านแบคทีเรีย ซึ่งช่วยกำจัดแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจ ปัจจุบัน มีสปาหลายแห่งที่สั่งซื้อธูปชนิดนี้”

นาง เซินถิดานี และสามี

หญิงสาวเผ่าเขมรทั้งสองคนข้างต้นนั้นเพียงแค่ตัวอย่างบางส่วนจากกลุ่มสตรีที่ได้รับการสนับสนุนทั้งในด้านคำปรึกษา การฝึกอบรม และการเชื่อมโยงกับตลาด จากสหพันธ์สตรีจังหวัดจ่าวิงและหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจนประสบความสำเร็จ ความพยายามของสหพันธ์ฯ ได้ช่วยให้สตรีชนบทสามารถเข้าถึงแหล่งทรัพยากร สร้างแบรนด์สินค้า พร้อมความมั่นใจในการเริ่มต้นธุรกิจสตาร์ทอัพ นาง เหงวียนถิทูงา ผู้อำนวยการโครงการส่งเสริมจิตใจแห่งการประกอบธุรกิจสำหรับสตรีชนบทในจังหวัดจ่าวิง เผยว่า โครงการนี้จะให้ความช่วยเหลือพี่น้องสตรีในการสร้างความเชื่อมโยงกับตลาด โดยเฉพาะทักษะการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล อย่างต่อเนื่อง

“ปัจจุบัน พวกเราได้จัดกิจกรรมส่งเสริมความตระหนักรู้ให้แก่กลุ่มสตรีชนบทท่ามกลางกระแสเทคโนโลยีดิจิทัลที่กำลังเปลี่ยนแปลงแนวทางการดำเนินธุรกิจ เพื่อช่วยให้สินค้าของพวกเขาสามารถเข้าถึงตลาดได้กว้างขวางมากขึ้นและจับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้รวดเร็วและสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยกิจกรรมต่างๆ ดังกล่าวภายใต้โครงการฯ จะช่วยสร้างความมั่นใจให้พี่น้องสตรีกล้าคิดกล้าทำในฐานะเป็นเจ้าของกิจการ”

ทั้งนี้ จากมะพร้าวกะทิและธูปขมิ้นขาวไปจนถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์ OCOP ระดับ 3 ดาว สตรีจังหวัดจ่าวิง โดยเฉพาะกลุ่มสตรีชนเผ่าเขมรกำลังเขียนเรื่องราวการเริ่มต้นธุรกิจสตาร์ทอัพอันน่าภาคภูมิของตนเองขึ้นมา ด้วยความกล้าที่จะลงมือทำ ความมุ่งมั่นตั้งใจ และความคิดที่สร้างสรรค์ พร้อมการสนับสนุนจากสหพันธ์สตรีจังหวัดจ่าวิงและหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ ทำให้สินค้าเกษตรในท้องถิ่นกลายเป็นแหล่งทรัพยากรทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ซึ่งช่วยให้เขตชนบทในจังหวัดจ่าวิง นับวันมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและเต็มไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น./.