กฎหมายอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลได้ผ่านความเห็นชอบจากสมาชิกรัฐสภา (VGP)

ในการประชุมครั้งที่ 9 สภาแห่งชาติสมัยที่ 15 กฎหมายอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลได้ผ่านความเห็นชอบจากสมาชิกรัฐสภา ทำให้เวียดนามเป็นประเทศแรกของโลกที่มีการบังคับใช้กฎหมายเฉพาะเกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ไม่เพียงแค่เป็นเอกสารทางกฎหมายเท่านั้น แต่ยังกำหนดให้เทคโนโลยีดิจิทัลกลายเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของการเติบโตทางเศรษฐกิจอีกด้วย พร้อมช่วยเวียดนามสร้างจุดยืนของตนเองในห่วงโซ่มูลค่าเทคโนโลยีโลก โดยสามารถแข่งขันกับกลุ่มเศรษฐกิจดิจิทัลชั้นนำ ศาสตราจารย์ ด็อกเตอร์ สือดิ่งแถ่ง ผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์นครโฮจิมินห์ เผยว่า วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์ และการปรับเปลี่ยนทางดิจิทัลจำเป็นต้องมีเสาหลักต่างๆ ในการพัฒนาเชิงกลยุทธ์ ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้เวียดนามหลุดพ้นจากปัญหากับดักรายได้ปานกลางและสร้างเศรษฐกิจที่สามารถพึ่งพาตนเองได้ ดังนั้น ระบบนโยบายด้านกฎหมายในภาคอุตสาหกรรมนี้จำเป็นต้องมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดทั้งในเชิงระบอบการปกครองและสามารถค้ำประกันกระบวนการบริหารภาครัฐอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมสร้างเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยเพื่อเสริมสร้างแหล่งทรัพยากรเชิงสร้างสรรค์ให้แข็งแกร่งมากขึ้น

“มติที่ 57 ของกรมการเมืองเกี่ยวกับความก้าวหน้าในการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์ และการปรับเปลี่ยนทางดิจิทัลระดับชาติ ถือเป็นหมุดหมายทางการเมืองที่มีความสำคัญอย่างมาก โดยยุติแนวคิดที่ว่า ถ้าบริหารจัดการไม่ได้ก็ห้ามทำเด็ดขาด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้มีการระบุอย่างเป็นรูปธรรมในกฎหมายอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล”

เพื่อใช้ประโยชน์จากศักยภาพทางเศรษฐกิจมหาศาลของสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมค้ำประกันความโปร่งใส ความปลอดภัย และการปฏิบัติตามมาตรฐานสากล เป็นครั้งแรกที่คำนิยามและการกำหนดกรอบกฎหมายเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงสินทรัพย์เข้ารหัสและสินทรัพย์เสมือนจริงได้มีการระบุในกฎหมายอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล โดยจำแนกตามวัตถุประสงค์การใช้งานและเทคโนโลยี สร้างพื้นฐานทางกฎหมายที่ชัดเจน ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าอย่างแข็งแกร่งในการปรับเปลี่ยนแนวความคิดที่เหมาะสมกับสถานการณ์จริงและแนวโน้มการพัฒนาของโลกในยุคปัจจุบัน

ข้อกำหนดต่างๆ ที่ระบุในกฎหมายอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลฉบับนี้ได้มีส่วนช่วยในการบรรลุเป้าหมายการสร้างสรรค์เศรษฐกิจดิจิทัลที่โปร่งใส ส่งเสริมความน่าเชื่อถือของประเทศในตลาดโลก นาย เหงวียนกวางโด่ง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยนโยบายและการพัฒนาสื่อสารมวลชนหรือ IPS เผยว่า

“เวียดนามจำเป็นต้องมีกฎหมายอย่างเป็นทางการเพื่อหารือถึงประเด็นปัญญาประดิษฐ์และสินทรัพย์ดิจิทัล โดยการระบุเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเป็นทางการครั้งแรก รวมถึงปัญญาประดิษฐ์และการใช้ปัญญาประดิษฐ์อย่างมีความรับผิดชอบนั้น ก็ถือเป็นกฎระเบียบข้อหนึ่งที่รวมอยู่ในกฎหมายอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล”

ศาสตราจารย์ ด็อกเตอร์ สือดิ่งแถ่ง ผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์นครโฮจิมินห์  (Đại học Kinh tế TP. Hồ Chí Minh)

กฎหมายอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลได้กำหนดนโยบายต่างๆ เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์พิเศษ โดยเฉพาะโครงการที่ใช้เงินลงทุนจำนวนมาก จะได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลาหลายปี พร้อมรับการสนับสนุนทางการเงินจากกองทุนเพื่อการพัฒนา รวมถึงค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนาหรือ R&D ก็เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าหรืออาจมากถึงสามเท่าสำหรับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ควบคู่กันนั้น ขั้นตอนระเบียบราชการก็ได้รับการอำนวยความสะดวกมากขึ้นผ่านกลไกการกระจายอำนาจในการจัดตั้งเขตอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลสู่ระดับท้องถิ่นและการใช้โหมด “ช่องเขียว” ของระบบศุลกากร นอกจากนี้ รัฐบาลยังให้ความสำคัญต่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น เช่น ศูนย์ข้อมูลและเครือข่าย 5G พร้อมส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย

จนถึงปัจจุบัน ปัญหาคอขวดที่ใหญ่สุดของภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลคือ บุคลากรที่มีทักษะสูง ดังนั้น กฎหมายฉบับนี้ได้มีการใช้มาตรการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาภายในเวลา 5 ปี สำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ออกวีซ่า 5 ปีให้กับผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ พร้อมกลไกพิเศษต่างๆ เกี่ยวกับเงินเดือนและสภาพแวดล้อมการทำงาน ซึ่งโซลูชั่นต่างๆ เหล่านี้ช่วยสร้างเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยในการจัดตั้งธุรกิจด้านอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะนำพาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลของเวียดนามไปสู่ระดับโลก รองศาสตราจารย์ ด็อกเตอร์ หวูหายกวน ผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยแห่งชาตินครโฮจิมินห์และผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์ ได้ยืนยันว่า

“นโยบายการพัฒนาบุคลากร รวมถึงการดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถในด้านนี้ ต้องถือเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล ควบคู่กับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลและการพัฒนานโยบายด้านทรัพยากรมนุษย์ที่เป็นก้าวกระโดด ปัจจุบัน ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคถือเวียดนามเป็นประเทศที่มีแหล่งบุคลากรที่เพรียบพร้อม เพราะฉะนั้น พวกเราจึงต้องใช้ประโยชน์จากจุดแข็งนี้ให้ได้”

ทั้งนี้ เพื่อสร้างระบบนิเวศสำหรับองค์กรธุรกิจด้านอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลที่แข็งแกร่ง ด้วยการบรรลุเป้าหมายจำนวนสถานประกอบการในด้านนี้ที่ 150,000 แห่งภายในปี 2035 เวียดนามกำลังมุ่งมั่นในการสร้างก้าวกระโดดเชิงยุทธศาสตร์ทางการบริหาร โดยกฎหมายอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน ซึ่งความพยายามต่างๆ เหล่านี้ ไม่เพียงแค่ส่งเสริมความเป็นอิสระทางเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังยืนยันถึงสถานะของเวียดนามในเศรษฐกิจดิจิทัลทั่วโลก./.