ร้านการแฟ MORE HANOI – รูปแบบธุรกิจสตาร์ทอัพสำหรับผู้พิการทางสายตา

(VOVWORLD) -ร้านกาแฟ MORE HANOI ของศูนย์ฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ฟื้นฟูสมรรถภาพสำหรับคนตาบอด สังกัดสมาคมคนตาบอดเวียดนาม ซึ่งเป็นร้านกาแฟแห่งแรกในเวียดนามที่จ้างผู้พิการทางสายตาเป็นบาริสต้า ได้เปิดให้บริการเมื่อปลายปี 2024 โดยที่นี่ไม่เพียงแค่เป็นจุดนัดหมายเพื่อลิ้มลองเครื่องดื่มอันแสนอร่อย แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงจิตใจแห่งการสู้ชีวิต พร้อมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มผู้พิการทางสายตากับสังคม
ร้านการแฟ MORE HANOI – รูปแบบธุรกิจสตาร์ทอัพสำหรับผู้พิการทางสายตา - ảnh 1ผู้พิการทางสายตาที่ทำงานในร้านกาแฟ MORE HANOI

ร้านกาแฟ MORE HANOI ตั้งอยู่ในศูนย์ฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ฟื้นฟูสมรรถภาพสำหรับคนตาบอด สังกัดสมาคมคนตาบอดเวียดนาม เลขที่ 1 ถนนเหงวียนถิเหยวะ เขตเกิ่วไย๊ กรุงฮานอย ซึ่งเป็นกิจกรรมในกรอบโครงการ “ฝึกอบรมบาริสต้าและการสร้างงานให้กับคนตาบอดในเวียดนาม” ของสมาคมคนตาบอดเวียดนาม โดยได้รับการสนับสนุนจากองค์กร Siloam International พร้อมด้วยวงเงินช่วยเหลือจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของสาธารณรัฐเกาหลี KOICA นาง ดิงเหวียดแอง รองประธานสมาคมคนตาบอดเวียดนาม เผยว่า

นี่คือโครงการแรกเกี่ยวกับการฝึกอบรมบาริสต้าเพื่อสร้างงานทำให้กับกลุ่มผู้พิการทางสายตาในเวียดนาม โดยผู้เข้าเรียนไม่เพียงแต่ได้รับการฝึกทักษะการผสมเครื่องดื่มเท่านั้น แต่ยังได้ความรู้เกี่ยวกับการให้บริการลูกค้าพร้อมทักษะการสื่อสารทางสังคม

เป้าหมายของโครงการ “ฝึกอบรมวิชาชีพบาริสต้าและการสร้างงานให้กับคนตาบอดในเวียดนาม” คือ ทำการฝึกอบรมให้กับผู้พิการทางสายตารวม 36 คน ผ่านหลักสูตรอาชีวศึกษา 6 หลักสูตรในระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่ปี 2024 ถึง 2026 พร้อมเปิดร้านกาแฟจำนวน 3 แห่ง นาย ฝ่ามซวนเจื่อง ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ฟื้นฟูสมรรถภาพสำหรับคนตาบอด สังกัดสมาคมคนตาบอดเวียดนาม เผยว่า

ศูนย์ฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ฟื้นฟูสมรรถภาพสำหรับคนตาบอดจะพัฒนาโครงการฝึกอบรมนี้อย่างต่อเนื่อง พร้อมขยายสาขาร้านกาแฟ เพื่อสร้างโอกาสและเพิ่มทางเลือกอาชีพให้กับผู้พิการทางสายตาในเวียดนาม พวกเราไม่เพียงแค่ดำเนินโครงการในพื้นที่กรุงฮานอยเท่านั้น แต่ยังมีแผนที่จะขยายไปทั่วประเทศ

ร้านการแฟ MORE HANOI – รูปแบบธุรกิจสตาร์ทอัพสำหรับผู้พิการทางสายตา - ảnh 2เป้าหมายของโครงการ “ฝึกอบรมวิชาชีพบาริสต้าและการสร้างงานให้กับคนตาบอดในเวียดนาม” คือ ทำการฝึกอบรมให้กับผู้พิการทางสายตารวม 36 คน

เครื่องดื่มแต่ละแก้วที่ทำขึ้นมาโดยผู้พิการทางสายตานั้นไม่ใช่เพียงแค่เป็นผลงานของอาชีพบาริสต้าเท่านั้น แต่ยังเป็นความสำเร็จจากความพยายามฟันฝ่าอุปสรรคทุกอย่างเพื่อการยืนยันถึงจุดยืนของตนเองในสังคม นาง เทินถวี๊หั่ง พนักงานร้านกาแฟ MORE HANOI เผยว่า

การเทน้ำใส่เหยือกเพื่อใช้เตรียมผสมเครื่องดื่มเป็นเรื่องยากสำหรับดิฉัน เพราะไม่สามารถมองเห็นระดับน้ำในเหยือกได้อย่างชัดเจน ดังนั้น ต้องใช้วิธีนับในใจประมาณ 10 วินาที เพื่อกะปริมาณน้ำที่เทลงไป ซึ่งต้องฝึกฝนซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนชำนาญ

การฝึกอบรมอาชีพและสร้างงานทำในสายงานบาร์เทนเดอร์และบาริสต้าให้แก่ผู้พิการทางสายตาไม่เพียงแค่เอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มผู้เข้าเรียนเท่านั้น แต่ยังสร้างผลดีต่อสังคมอีกด้วย โดยผู้พิการทางสายตาได้เรียนรู้อาชีพใหม่ พร้อมมีโอกาสในการประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพเปิดร้านกาแฟ เพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่และมีอิสระทางการเงิน นาง เลถิเตื่องทู ประธานสหภาพแรงงาน กระทรวงวางแผนและการลงทุนเวียดนาม เผยว่า

ด้วยความพยายามไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก กลุ่มผู้พิการ รวมถึงผู้พิการทางสายตา สามารถสร้างชีวิตใหม่ได้ด้วยตนเอง และยังสามารถเป็นเจ้าของกิจการพร้อมสร้างงานทำให้กับผู้พิการคนอื่นๆ ได้ด้วย ซึ่งมีส่วนช่วยส่งเสริมจิตใจแห่งความพยายามฟันฝ่าอุปสรรคและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ให้กับตนเอง

ด้วยบรรยากาศที่เป็นมิตร เต็มไปด้วยความอบอุ่นและสีเขียวจากต้นไม้ของร้านการแฟ MORE HANOI ทำให้ลูกค้าที่เดินเข้ามาก็รู้สึกถึงความผ่อนคลายและเป็นกันเอง ซึ่งกาแฟหรือเครื่องดื่มแต่ละแก้วนั้น ล้วนสะท้อนความพยายามและใส่ใจของพนักงาน อีกทั้งยังส่งสารแห่งความรักใคร่และความเชื่อมั่นในทักษะความสามารถของผู้พิการทางสายตา เวลาลูกค้าแต่ละคนเข้ามาใช้บริการที่นี่จะรู้สึกถึงความจริงใจ ความกระตือรือร้น และความพยายามของพนักงานทุกคนในร้าน นาง ลิวมิงหว่า ลูกค้าคนหนึ่งของร้านการแฟ MORE HANOI แสดงความรู้สึกของตัวเองว่า

ฉันแปลกใจมากเมื่อรู้ว่า พนักงานบาริสต้าของร้านเป็นผู้พิการทางสายตา ซึ่งทำทุกอย่างได้ด้วยตนเอง ถือเป็นร้านกาแฟที่ค่อนข้างพิเศษ เพราะน้องๆ พนักงาน ผสมเครื่องดื่มได้ดีและดูสวยงาม รสชาติก็อร่อย เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมมากๆ

ทั้งนี้ ร้านการแฟ MORE HANOI ไม่เพียงแค่เป็นร้านขายเครื่องดื่มเท่านั้น แต่ยังเป็นรูปแบบการดำเนินธุรกิจเชิงสร้างสรรค์ที่สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นมิตรและโอกาสการทำงานให้แก่กลุ่มผู้พิการทางสายตา ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นและพื้นฐานอันแข็งแกร่งในการสนับสนุนผู้พิการทางสายตาประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในอนาคต./.

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด