ร้านคาเฟ่ยามเช้าแห่งการเรียนรู้เพื่อเป็นพลเมืองดิจิทัล

(VOVWORLD) - บรรยากาศในร้านคาเฟ่บนถนนเหงวียนซี้ แขวงบิ่งแถ็ง นครโฮจิมินห์ กลับมาคึกคักเหมือนเคยในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ที่นี่ไม่เพียงแค่เป็นจุดนัดหมายเพื่อพักผ่อนหย่อนใจเท่านั้น แต่ยังกลายเป็น ห้องเรียนดิจิทัล” เพื่อช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงกระบวนการปรับเปลี่ยนทางดิจิทัลได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบายผ่านการใช้สมาร์ทโฟน แอปพลิเคชั่นระบุตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์หรือ VneID ไปจนถึงการให้บริการภาครัฐทางออนไลน์
 
 
ร้านคาเฟ่ยามเช้าแห่งการเรียนรู้เพื่อเป็นพลเมืองดิจิทัล - ảnh 1“ชั้นเรียนการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล” ที่ร้านกาแฟในแขวงบิ่งแถ่งเมื่อเช้าวันที่ 2 สิงหาคม

ในชุดเสื้ออาสาสมัครสีคราม กลุ่มเยาวชนอาสา 1-2-3 แขวงบิ่งแถ็ง กำลังสอนวิธีการติดตั้งแอปพลิเคชั่นระบุตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ VneID การลงทะเบียนตรวจสุขภาพออนไลน์ การโอนเงิน วิธีค้นหาบริการภาครัฐ หรือดำเนินงานต่าง ๆ บนแพลตฟอร์มดิจิทัล นาย โงวันต๊า ผู้สูงอายุคนหนึ่ง เผยว่า ก่อนหน้านี้ ตนเองรู้จักการใช้สมาร์ทโฟนเพื่อโทรออกหรือรับสายจากผู้อื่นเท่านั้น แต่ตอนนี้ สามารถใช้แอปพลิเคชั่นที่มีประโยชน์หลายตัวได้อย่างคล่องแคล่ว

น้อง ๆ ได้ลงพื้นที่เพื่อให้คำแนะนำ ซึ่งสะดวกกว่าที่ผมต้องเดินทางไปที่สำนักงานแขวงฯ จนถึงปัจจุบัน มีหลายคนอยากหัดใช้เทคโนโลยี แต่รู้สึกยากมาก ดังนั้น ผมหวังว่า ทางการปกครองท้องถิ่นจะวางแผนไปสอนกลุ่มผู้สูงอายุถึงบ้าน เช่น การจองรถหรือการทำนัดหมายตรวจสุขภาพ โดยเฉพาะการโอนเงิน พร้อมแนะนำให้รู้ทันการหลอกลวงเพื่อให้พวกเขาสามารถปกป้องตนเองได้

ส่วนนาย เหงวียนหายลอง เจ้าของร้านคาเฟ่ เผยว่า ถึงแม้กำลังดำเนินกิจการทางธุรกิจ แต่ก็พร้อมที่จะจัดสรรพื้นที่ร้านให้กับ “ห้องเรียนเพื่อการปรับเปลี่ยนด้านดิจิทัล” พิเศษแห่งนี้

นี่เป็นรูปแบบที่ดีในอนาคต เพราะมีผู้คนเดินไปเดินมาแถวนี้เป็นจำนวนมาก ดังนั้น ผมอยากสนับสนุนให้มีพื้นที่ทำงานและเข้าถึงประชาชนได้ง่ายขึ้น ในเวลาข้างหน้า เมื่อทุกอย่างได้มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทั้งหมดแล้ว ใคร ๆ ก็มีสมาร์ทโฟนของตัวเอง ก็ควรที่จะมีแอพพลิเคชั่นที่สะดวกต่อการทำงาน”

ร้านคาเฟ่ยามเช้าแห่งการเรียนรู้เพื่อเป็นพลเมืองดิจิทัล - ảnh 2ทหารผ่านศึก โงวันต๊า เรียนรู้การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลที่ร้านกาแฟ

ไม่เพียงแค่อยู่ที่ร้านกาแฟเท่านั้น แต่กลุ่มเยาวชนอาสาสมัครยังคงปรากฏตัวที่แขวงหมายเลข 15 ถนนจูวันอาน เพื่อช่วยประชาชนติดตั้งแอปฯ VNeID แนะนำการดำเนินระเบียบราชการทางออนไลน์ พร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการใช้บัญชีพลเมืองดิจิทัลเพื่อความสะดวกสบายในชีวิตมากยิ่งขึ้น นาย เหงวียนเติ๊นหยุง นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคนิคนครโฮจิมินห์และเป็นหนึ่งในอาสาสมัคร เผยว่า

ลุงป้าน้าอาหลายคนบอกผมว่า การตั้งรหัสผ่านซับซ้อน เลยไม่สามารถาใช้ VNeID เพราะจำรหัสผ่านไม่ได้ ซึ่งปัจจุบัน มีวิธีแก้อีกทางคือ การเข้าสู่ระบบด้วยลายนิ้วมือ ซึ่งตั้งเพียงครั้งเดียว หรือใช้โหมดบันทึกรหัสผ่าน โดยพวกเขาเพียงบันทึกรหัสผ่านของตนเอง ระบุตัวตนด้วยกล้องสแกนใบหน้า หรือเข้าสู่ระบบด้วยลายนิ้วมือก็ได้เช่นกัน

ส่วนนางสาว เหงวียนยือซวน รองเลขาธิการกองเยาวชนแขวงบิ่งแถ็ง เผยว่า การปรับเปลี่ยนทางดิจิทัลจะมีประสิทธิภาพ ก็ต่อเมื่อประชาชนสามารถเข้าถึงและใช้งานได้จริง ดังนั้น คนรุ่นใหม่ในกลุ่มต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับความเข้าใจและการเข้าถึงได้ง่ายเป็นอันดับแรก เพื่อให้ทุกคนไม่รู้สึกแปลกใจหรือกลัวในการใช้เทคโนโลยี

รูปแบบนี้ได้ช่วยให้ผู้คนสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มดิจิทัลที่รัฐบาลกำลังนำมาใช้ โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุและคนงาน สามารถเข้าถึงแอปพลิเคชั่นที่เกี่ยวข้องกับพลเมืองดิจิทัล เช่น แอปฯ ระบุตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ VneID หรือประกันสังคมดิจิทัล VssID ซึ่งพวกเขาจะเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิต่าง ๆ ของตนเองมากขึ้น รู้จักวิธีการเข้าถึงพอร์ทัลบริการภาครัฐของเมือง พร้อมใช้บริการระเบียบราชการต่าง ๆ ทางออนไลน์ได้

ร้านคาเฟ่ยามเช้าแห่งการเรียนรู้เพื่อเป็นพลเมืองดิจิทัล - ảnh 3กลุ่มเยาวชนอาสา 1-2-3 กำลังแนะนำวิธีการติดตั้งและใช้งานแอพพลิเคชันบนโทรศัพท์

ห้องเรียนที่ร้านคาเฟ่ Luka และแขวงหมายเลข 15 เป็น 2 จาก 53 กลุ่มเยาวชนอาสา 1-2-3 ที่ได้มีการเปิดตัวในพิธีรณรงค์โครงการ “ห้องเรียนดิจิทัลทั่วไป” ในแขวงบิ่งแถ็ง เพื่อเผยแพร่ความรู้และทักษะดิจิทัลขั้นพื้นฐานให้แก่ทั้งผู้เกษียณอายุราชการ คนงานทั่วไป ไปจนถึงพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย นักศึกษา และผู้สูงอายุ โดยแต่ละพื้นที่จะจัดเป็นหนึ่งกลุ่มและเรียนที่ศูนย์ชุมชน ร้านคาเฟ่ หรือบ้านคนใดคนหนึ่งตามที่สะดวก ทั้งในรูปแบบโดยตรง ทางออนไลน์ หรือตัวต่อตัว นาง หว่างมายกวิ่งฮวา ประธานคณะกรรมการแนวร่วมปิตุภูมิเวียดนามสาขาแขวงบิ่งแถ็ง เผยว่า

พวกเราได้รณรงค์ให้หน่วยงานและองค์กร บ้านเรือน สถานประกอบการ ร้านกาแฟ หรือสถานที่ที่ผู้คนมักเดินทางไปบ่อยๆ เข้าร่วมโครงการนี้ ซึ่งที่นั่นจะมีการแนะนำและสอนวิธีการใช้โดยไม่ต้องรวมตัวกันที่ศูนย์บริหารราชการหรือสำนักงานงานภาครัฐเพียงแห่งเดียว ฉะนั้น ประชาชนจะสามารถพูดคุยกับพวกเราได้สะดวกมากขึ้น ในขณะที่พวกเราก็สามารถแนะนำพวกเขาได้ง่าย จากกิจกรรมเล็ก ๆ สู่การสร้างสรรค์แพลตฟอร์มพลเมืองดิจิทัลพร้อมมีส่วนร่วมต่อการสร้างสังคมให้ดีขึ้น

ทั้งนี้ การปรับเปลี่ยนทางดิจิทัล ณ ปัจจุบัน กำลังได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ วัน จากร้านคาเฟ่เล็ก ๆ ไปจนถึงทุกตรอกซอกซอยหรือถนนที่คุ้นเคย โดยประชาชนจะสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีในเชิงรุกผ่านห้องเรียนเพื่อการปรับเปลี่ยนด้านดิจิทัลและกลุ่มเยาวชนอาสาสมัครในแต่ละพื้นที่ ด้วยแนวทางที่ยืดหยุ่นโดยมุ่งเน้นถึงความต้องการของผู้คนเป็นอันดับแรก รูปแบบห้องเรียนต่าง ๆ ดังกล่าวจะมีส่วนช่วยในการสร้างโมเดลแห่ง "การปรับเปลี่ยนด้านดิจิทัลจากระดับท้องถิ่น" ที่ใกล้ชิดและเป็นประโยชน์ต่อสังคมในวงกว้าง./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด