หลายจังหวัดให้ความสำคัญต่อการประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพเชิงสร้างสรรค์
Nguyen Hang- VOV -  
(VOVWORLD) -การประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพเชิงสร้างสรรค์ถือเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของแต่ละประเทศ โดยในช่วงเวลาที่ผ่านมา หลายๆ จังหวัดได้มีการส่งเสริมจิตใจแห่งการประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพอย่างเข้มแข็ง เพื่อสร้างสรรค์เป็นแบบอย่างดีเด่น พร้อมมีส่วนช่วยสนับสนุนการจัดตั้งระบบนิเวศที่ส่งเสริมจิตใจแห่งการประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพระดับประเทศ
จิตใจแห่งการประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพได้รับการขยายในท้องถิ่นต่างๆ โดยมีจุดเด่นต่างๆ |
ด้วยมุมมองที่ถือการประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพเป็นจุดเริ่มต้นในการประกอบอาชีพ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ทางการจังหวัดด่งท้าบ ได้ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงกระบวนการเริ่มต้นธุรกิจสตาร์ทอัพเพื่อให้ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกร สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยการส่งเสริมจิตใจแห่งการดำเนินธุรกิจสตาร์ทอัพเป็นไปอย่างกว้างขวางนั้น ได้เปิดโอกาสให้ทุกๆ คน ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกรผู้สูงอายุหรือคนรุ่นใหม่เข้าร่วมเพื่อทำให้ความคิดกลายเป็นความจริง แต่ทางการจังหวัดฯ กลับต้องเผชิญกับหนึ่งในความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดคือ ความกังวลในการปรับเปลี่ยนจากรูปแบบเกษตรกรรายย่อยขนาดเล็กมาเป็นรูปแบบองค์กรธุรกิจ ซึ่งจังหวัดฯ ได้มีการปรับโครงสร้างภาคการเกษตร โดยให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงแนวความคิดเป็นหลัก กล้าที่จะใช้ประโยชน์จากแหล่งทรัพยากรในท้องถิ่น เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว นาย ฝ่ามเถี่ยนเหงี๋ย ประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดด่งท้าบ เผยว่า
“เพื่อผลักดันกระบวนการดำเนินธุรกิจสตาร์ทอัพ ทางการจังหวัดด่งท้าบ ได้จัดตั้งองค์กรสนับสนุนพิเศษหลายองค์กร ตัวอย่างเช่น รูปแบบชมรมเกษตรกรและร้านกาแฟเพื่อผู้ประกอบการ ซึ่งถือเป็นสะพานเชื่อมระหว่างบุคคลและองค์กรที่มีแนวคิดเชิงสร้างสรรค์ เพื่อพบปะเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพ นอกจากนี้ ทางการจังหวัดฯ ยังได้มีการจัดการประกวดธุรกิจสตาร์ทอัพ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนเสนอไอเดียต่างๆ พร้อมทำให้เกิดขึ้นได้ในเชิงปฏิบัติ ในตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ในจังหวัดด่งท้าบ มีผลิตภัณฑ์ OCOP หนึ่งชุมชนหนึ่งผลิตภัณฑ์ รวม 620 รายการ มากเป็นติดอันดับ 3 ของประเทศ”
เวียดนามกำลังมีการพัฒนาระบบนิเวศสตาร์ทอัพอย่างคึกคัก |
สำหรับประเทศเวียดนาม กำลังมีการพัฒนาระบบนิเวศสตาร์ทอัพอย่างคึกคัก ซึ่งดึงดูดการเข้าร่วมของกลุ่มผู้ประกอบการสตาร์ทอัพเชิงสร้างสรรค์ และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รวมถึงการมีส่วนร่วมของมหาวิทยาลัย สถาบันวิจัย กองทุนการลงทุน และองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ เพื่อส่งเสริมจิตใจแห่งการประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพให้แพร่หลายในท้องถิ่นต่างๆ นาย บุ่ยจุงเหงีย รองประธานสหพันธ์การค้าและอุตสาหกรรมเวียดนามหรือ VCCI เผยว่า
“พวกเรามุ่งมั่นที่จะพัฒนากลุ่มผู้ประกอบการในห้วงเวลาการผสมผสานเข้ากับการเปลี่ยนแปลงใหม่ในการสนับสนุนบรรดาผู้ประกอบการ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพ จากสถานการณ์จริงในท้องถิ่น รวมถึงประสบการณ์ในการพัฒนาระบบนิเวศสตาร์ทอัพในระดับจังหวัด เขตเมือง และภูมิภาคต่างๆ ในเวียดนาม ไปจนถึงการเข้าร่วมกิจกรรมความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อผลักดันการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และนวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์ ให้ก้าวขึ้นสู่ระดับโลกในอนาคต”
สำหรับระบบนิเวศสตาร์ทอัพที่สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น ต้องมีส่วนร่วมของระบบบริหารการเมืองทุกภาคส่วน ซึ่งอย่างแรกคือ ความใส่ใจของบรรดาผู้นำส่วนท้องถิ่นที่ได้สะท้อนออกมาผ่านการประกาศนโยบายต่างๆ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยและสนับสนุนองค์กรธุรกิจสตาร์ทอัพให้พัฒนามากขึ้น อย่างที่สองคือปัจจัยด้านทรัพยากรมนุษย์หรือฝ่ายต่างๆ ที่เข้าร่วมในองค์ประกอบของระบบนิเวศสตาร์ทอัพและสตาร์ทอัพเชิงนวัตกรรม เช่น องค์กรสนับสนุนและพัฒนาธุรกิจ กลุ่มองค์กรจัดหาเงินทุน มหาวิทยาลัยและองค์กรฝึกอบรม ด้านอาชีวศึกษา กลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ผู้ประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพ และองค์กรธุรกิจด้านเทคโนโลยี เป็นต้น นอกจากนี้ การจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อประเมินโอกาสความร่วมมือ เชื่อมโยง และแบ่งปันประสบการณ์ รวมถึงฟอรั่ม การประชุมเชิงปฏิบัติการ การประกวดธุรกิจสตาร์ทอัพ การบ่มเพาะแนวความคิด การเชื่อมโยงด้านการลงทุน การนำผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ผ่านกิจกรรม Demo Day ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก นาย ฝ่ามห่งเกวิ๊ด อธิบดีกรมพัฒนาการตลาดและธุรกิจ สังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ย้ำว่า
“การดำเนินธุรกิจสตาร์ทอัพเชิงสร้างสรรค์ ถือเป็นเงื่อนไขขั้นพื้นฐานและนิมิตหมายที่สำคัญ เพื่อมีส่วนช่วยจัดตั้ง พร้อมส่งเสริมการขยายและพัฒนาระบบนิเวศสตาร์ทอัพ ซึ่งกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้การสนับสนุนและมีความคาดหวังว่า กิจกรรมประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพเชิงนวัตกรรมสร้างสรรค์จะนับวันพัฒนาก้าวสู่ระดับเขตและภูมิภาค อีกทั้งสร้างความเชื่อมโยงอย่างแน่นแฟ้นกับระบบนิเวศระดับประเทศและสากล”
ทั้งนี้ ในปี 2024 เป็นครั้งแรกที่ระบบนิเวศสตาร์ทอัพเชิงสร้างสรรค์ของเวียดนามได้รับการจัดอันดับที่ 56 ในตารางดัชนีระบบนิเวศสตาร์ทอัพระดับโลกของศูนย์การวิจัยและสร้างแผนที่ระบบนิเวศสตาร์ทอัพของโลก Startup Blink โดยกรุงฮานอยและนครโฮจิมินห์ ติดกลุ่ม 200 อันดับแรก ส่วนนครดานังติดกลุ่ม 1,000 เมืองสตาร์ทอัพระดับโลก./.
Nguyen Hang- VOV