กุญแจสำคัญในการดึงดูด​บริษัทที่เป็น“อินทรีย์ยักษ์” ด้านเทคโนโลยีสู่เวียดนาม

(VOVWORLD) - ด้วยความได้เปรียบมากมายจากแหล่งพลังที่กำลังมีอยู่ ทำให้เวียดนามกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่มีศักยภาพตต่อสถานประกอบการด้านเทคโนโลยีระดับโลก โดยเฉพาะ ในด้าน AI และเซมิคอนดักเตอร์ บรรดาผู้เชี่ยวชาญแสดงความเห็นว่า เวียดนามสามารถสร้างก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมไมโครชิพและแข่งขันกับบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกได้
กุญแจสำคัญในการดึงดูด​บริษัทที่เป็น“อินทรีย์ยักษ์” ด้านเทคโนโลยีสู่เวียดนาม - ảnh 1เวียดนามเป็นจุดหมายปลายทางที่มีศักยภาพของสถานประกอบการด้านเทคโนโลยีระดับโลก

ความคิดริเริ่มเชิงยุทธศาสตร์ด้านเทคโนโลยีได้รับการประกาศเมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ กรุงฮานอย ภายใต้การเป็นสักขีพยานของนายกรัฐมนตรีเวียดนาม ผู้บริหารของเครือบริษัทและสถานประกอบการเทคโนโลยีชั้นนำของโลก เช่น Meta, NVIDIA เครือบริษัท สถานประกอบการและองค์กรของเวียดนาม กิจกรรมนี้เป็นการยืนยันถึงนิมิตหมายที่สำคัญให้แก่อนาคตเทคโนโลยีเวียดนาม

โครงการความคิดริเริ่มร่วมมือ ประกอบด้วย การเน้นพัฒนาแหล่งบุคลากร การฝึกอบรมทีมวิศวกรที่มีคุณภาพสูง การสนับสนุนสถานประกอบการเวียดนามเพื่อขยายการเชื่อมโยงระหว่างประเทศ สร้างฐานข้อมูลภาษาเวียดนามแบบโอเพ่นซอร์สและการสนับสนุนการวิจัยปัญญาประดิษฐ์หรือ AI โดยเฉพาะ ความคิดริเริ่มในการบ่มเพาะสถานประกอบการสตาร์ทอัพได้อำนวยความสะดวกต่อการทำธุรกิจสตาร์ทอัพด้านเซมิคอนดักเตอร์ในการเข้าร่วมห่วงโซ่อุปทานระดับโลก

“หลายประเทศกำลังลงทุนในเวียดนาม โดยเฉพาะประเทศในภูมิภาค เช่น ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี ไต้หวันและสิงคโปร์ ผมมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคตของการพัฒนาเทคโนโลยีในเวียดนาม”

“บริษัทยักษ์ใหญ่ในด้านเทคโนโลยีระดับโลกได้มีกิจกรรมที่สำคัญในเวียดนาม โดยบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลก เช่น Nvidia, Meta และ Google กำลังเร่งลงทุนในเวียดนาม ซึ่งสัญญาณที่บ่งบอกถึงความพร้อมของเวียดนามในการเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีขั้นสูงในเอเชีย”

ในด้านเทคโนโลยี  “ยูนิคอร์นสตาร์ทอัพ- unicorn startup” เป็นชื่อที่ใช้เรียกสตาร์ทอัพที่มีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ จากข้อมูลของ Nikkei Asia  จำนวนบริษัทยูนิคอร์นในด้านปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ทั่วโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจาก “บริษัทยักษ์ใหญ่” เช่น Nvidia และ Google ทำการลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพ และเวียดนามกำลังกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจของนักลงทุนในด้านนี้

ยกตัวอย่างเช่น เครือบริษัท Nvidia ได้จัดตั้งศูนย์เพื่อการวิจัยและพัฒนาหรือ R&D และศูนย์ฐานข้อมูล AI ในเวียดนาม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มเทคโนโลยีเพื่อให้ Nvidia และหุ้นส่วนต่างๆ บ่มเพาะความคิดริเริ่มด้านนวัตกรรมเกี่ยวกับ AI นักวิจัยและบริษัทสตาร์ทอัพสามารถใช้โครงสร้างพื้นฐานนี้เพื่อพัฒนาแอพพลิเคชัน AI ในด้านที่จำเป็น เช่น การดูแลสุขภาพ การศึกษา การคมนาคมขนส่งและการเงิน นาย Michael Kagan ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีของเครือบริษัท Nvidia ได้เผยว่า

“เราได้ประกาศความสัมพันธ์หุ้นส่วนและ NVIDIA กำลังลงทุนอย่างแข็งขันต่ออนาคตของเวียดนาม เราได้เปิดสำนักงานในกรุงฮานอยและขณะนี้ กำลังพัฒนาอย่างเข้มแข็งเพื่อเป็นศูนย์กลาง R&D ชั้นนำในเวียดนาม เวียดนามมีวิศวกรไอทีหลายล้านคน โดยกว่าครึ่งเป็นโปรแกรมเมอร์ ถ้าหากวิศวกรเหล่านี้เปลี่ยนมาประกอบอาชีพด้าน AI เวียดนามอาจกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก”

กุญแจสำคัญในการดึงดูด​บริษัทที่เป็น“อินทรีย์ยักษ์” ด้านเทคโนโลยีสู่เวียดนาม - ảnh 2นาย Michael Kagan ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีของเครือบริษัท Nvidia (vtv.vn)

นอกจากนี้ Google ยังยืนยันถึงการจัดตั้ง Google Vietnam เพื่อสนับสนุนกระบวนการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล ประสานงานกับหุ้นส่วนเวียดนามเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการประมวลผลแบบคลาวด์และแอพพลิเคชันเกม เมื่อปีที่แล้ว Foxcom ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ของ Apple ได้ประกาศการลงทุนเพื่อผลิตชิพในจังหวัดบั๊กยาง รวมมูลค่า 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะเดียวกัน Meta มีแผนที่จะขยายการผลิตอุปกรณ์ความเป็นจริงเสมือน และ SpaceX วางแผนที่จะลงทุน 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเวียดนาม

เครือบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลกหลายแห่งยืนยันว่า เวียดนามมีความได้เปรียบที่สำคัญมากมายในการเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าเชื่อถือและเป็นหุ้นส่วนในระยะยาว นั่นคือมีประชากรวัยทำงานอยู่ในระดับสูง มีความขยันในการทำงาน มีความคิดสร้างสรรค์และมีความมุ่งมั่นอันแรงกล้าเพื่อก้าวรุดหน้าไปบวกกับคำมั่นที่เข้มแข็งจากรัฐบาล และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือความกระตือรือร้นของชุมชนเทคโนโลยีเวียดนาม แต่อย่างไรก็ตาม  เพื่อเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและเน้นสร้างสรรค์อุตสาหกรรมเทคโนโลยีของตนเองไม่ใช่แค่สถานที่เพื่อให้บริษัทรายใหญ่ทำธุรกิจ สถานประกอบการด้านเทคโนโลยีของเวียดนามต้องพยายามยืนยันถึงสถานะของตนบนแผนที่เทคโนโลยีระดับโลก นาย กาวแองต๊วน ซีอีโอของบริษัทเทคโนโลยี Genetica แสดงความเห็นว่า

“เวียดนามจะต้องใช้ประโยชน์จากแหล่งพลังวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ชั้นนำของโลกที่เข้ามาเวียดนาม เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีระดับโลก ไม่ใช่แค่ให้บริการชาวเวียดนามเท่านั้น หากยังต้องเข้าสู่ทั่วโลกอีกด้วย”

ด้วยแนวคิดแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่และวิธีการเข้าถึงอย่างสร้างสรรค์ เวียดนามกำลังได้รับการคาดหวังว่าจะสร้างก้าวกระโดดในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยการลงทุนจากบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกอาจเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความสำเร็จครั้งใหม่ของเวียดนาม.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด