ไฮฟองขึ้นสู่อันดับสูงสุดของ PCI เป็นครั้งแรก

ภายหลัง 20 ปีที่มีบทบาทเป็นตัวชี้วัดของการปฏิรูปสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในท้องถิ่นต่างๆ ดัชนี PCI ได้กลายเป็นกลไกการสนทนาประจำปีระหว่างชุมชนสถานประกอบการกับทางการปกครองท้องถิ่น เป็นเวทีเพื่อให้สถานประกอบการแสดงความคิดเห็นจากสถานการณ์ที่เป็นจริงและให้ทางการปกครองท้องถิ่นรับฟังความคิดเห็นสำหรับดำเนินการ

ถ้าหากในตอนแรกดัชนี PCI ถูกสร้างขึ้นจากกลุ่มเกณฑ์มาตรฐานเดิมที่ดำเนินการมาอย่างยาวนาน มาถึงปัจจุบัน เมื่อเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจถูกกำหนดไว้ในระดับสูง ซึ่งทำให้ทุกท้องถิ่นต้องมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ มีความคิดสร้างสรรค์และมีก้าวกระโดดมากขึ้น และดัชนีนี้ก็ต้องถูกปรับปรุงอย่างต่อเนื่องตามแนวทางที่ดีขึ้น นาย โด่วแองต๊วน รองเลขาธิการและหัวหน้าฝ่ายกฎหมายของสหาพันธ์การค้าและอุตสาหกรรมเวียดนามหรือ VCCI แสดงความเห็นว่า

“พรรค สภาแห่งชาติและรัฐบาลได้ประกาศใช้หลายนโยบายที่สำคัญมาก โดยเฉพาะมติใหม่ 2 ฉบับ ได้แก่ มติที่ 66 เกี่ยวกับการจัดทำและการบังคับใช้กฎหมาย และมติที่ 68 เกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชน ซึ่งดัชนี PCI ได้มีส่วนร่วมประเมินการปฎิบัตินโยบายเหล่านี้ในสถานการณ์ที่เป็นจริง PCI เป็นสิ่งสะท้อนความคิดเห็นของสถานประกอบการ การปฏิบัติตามมติ และความคาดหวังของสถานประกอบการ”

นาย โด่วแองต๊วน รองเลขาธิการและหัวหน้าฝ่ายกฎหมายของสหาพันธ์การค้าและอุตสาหกรรมเวียดนามหรือ VCCI (congthuong.vn)

จากผลการสรุปดัชนี PCI ปี 2024 ที่เพิ่งประกาศไปเมื่อเร็วๆนี้ ก็สามารถเห็นชัดถึงการเปลี่ยนแปลง ความพยายาม และความคิดสร้างสรรค์ในการปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจของท้องถิ่นต่างๆ ควบคู่กับมาตรฐานเกี่ยวกับการเข้าถึงที่ดิน การฝึกอบรมแรงงาน ข้อกำหนดทางกฎหมาย ความเป็นระเบียบเรียบร้อยและมาตรฐานด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น นิคมอุตสาหกรรม ระบบโทรคมนาคมและไฟฟ้า เป็นต้นได้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการดำเนินการระหว่างการปฏิรูประเบียบราชการกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ดัชนี PCI ยังคงแสดงให้เห็นถึงความคาดหวังของสถานประกอบการโดยเรียกร้องให้ทางการปกครองท้องถิ่นส่งเสริมการปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน นาย ฝ่ามเติ๊นกง ประธาน VCCI ย้ำว่า

“ดัชนี PCI ที่สะท้อนคุณภาพการบริหารจัดการทางเศรษฐกิจ ได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2016 นี่เป็นผลจากความพยายามอย่างไม่หยุดยั้งในการปฏิรูปของท้องถิ่นหลายแห่ง”

จากการประกาศใช้ดัชนี PCI บรรดาสถานประกอบการ โดยเฉพาะ สถานประกอบการต่างประเทศมีความเชื่อมั่นและแรงจูงใจมากขึ้นในการเพิ่มการลงทุนในเวียดนาม นาย Akira Kuei รองผู้อำนวยการฝ่ายการผลิตของบริษัท USI Vietnam ในเขตนิคมอุตสาหกรรมดิ่งหวูใต้ นครไฮฟองได้ชื่นชมบรรยากาศการลงทุนและประกอบธุรกิจในนครไฮฟอง ซึ่งเป็นท้องถิ่นที่ติดอันดับสูงสุดในปี 2024 ด้วย3ดัชนีที่น่าไว้วางใจ ได้แก่ ดัชนีความสามารถในการแข่งขันระดับจังหวัด ดัชนีการปฏิรูประเบียบราชการ และดัชนีความพึงพอใจของประชาชนต่อการสนับนุนจากหน่วยงานของรัฐ

“ในกระบวนการดำเนินโครงการในไฮฟอง เราได้รับการสนับสนุนจากทางการนครไฮฟองเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในการดำเนินการตามขั้นตอนการลงทุนและการดำเนินโครงการ ดังนั้น การก่อสร้างโรงงานของเราในไฮฟองและกระบวนการผลิตจึงเป็นไปอย่างราบรื่น ทางการไฮฟองยังประสานงานกับหน่วยงานฝึกอบรมเพื่อจัดโครงการยกระดับทักษะของแรงงาน ช่วยให้สถานประกอบการมีบุคลากรที่มีทักษะความสามารถสูงเพื่อตอบสนองความต้องการในการพัฒนา”

นาย เทินดึ๊กเวียด ผู้อำนวยการของเครือบริษัทสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปหมายเลข 10 ซึ่งเป็นสถานประกอบการของเวียดนามที่มีประสบการณ์ทางธุรกิจมาเป็นเวลาหลายปีและเข้าร่วมในการสำรวจดัชนี PCI อย่างสม่ำเสมอตั้งแต่แรกเริ่ม ประเมินว่า

“กรอบการประเมินดัชนีขีดความสามารถในการแข่งขันระดับจังหวัด PCI ได้ขยายผลไปยังจังหวัดและนครต่างๆ ท้องถิ่นต่างๆ ได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เอื้ออำนวยต่อสถานประกอบการ”

ในสภาวการณ์ใหม่ที่มีการคาดการณ์การเติบโตใหม่ โดยเฉพาะแนวทางของรัฐบาลเวียดนามที่ต้องการส่งเสริมให้เศรษฐกิจทุกภาคส่วนเข้าร่วมการลงทุนและประกอบธุรกิจอย่างเท่าเทียมกัน จังหวัดและนครต่าง ๆ กำลังพยายามเปลี่ยนแปลงใหม่และมีควมคิดสร้างสรรค์ในการบริหารจัดการเศรษฐกิจ ปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ และส่งเสริมการเติบโต ดัชนี PCI ยังอยู่ในช่วงเวลาพิเศษ ซึ่งเป็นช่วงเสร็จสิ้นการปฏิรูปที่มีขึ้นเป็นเวลา 20 ปี เปิดประตูสู่การพัฒนาในยุคใหม่กับทั้งประเทศ ซึ่งประสิทธิภาพในการดำเนินงานและนวัตกรรมจะเป็นแรงผลักดันหลักสำหรับการเติบโต สถานประกอบการหวังว่า  PCI จะสะท้อนความคิดเห็นและความปรารถนาไปสู่หน่วยงานท้องถิ่นเพื่อให้มีมาตรการปฏิรูปที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ปรับปรุงสภาพแวดล้อมการลงทุนและธุรกิจให้ดีขึ้นในอนาคต.