พลเอก ฟานวันยาง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเวียดนาม (Photo:quochoi.vn)

นับตั้งแต่ที่เข้าร่วมกิจกรรมการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติเมื่อปี 2014 เวียดนามได้ปรับปรุงกรอบทางนิตินัยให้มีความสมบูรณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการใหม่ สอดคล้องกับบทบาทและสถานะใหม่ของเวียดนามทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี โดยเฉพาะในกรอบสหประชาชาติ ดังนั้นการประกาศใช้กฎหมายที่สมบูรณ์ว่าด้วยการเข้าร่วมกองกำลังรักษาสันติภาพระหว่างประเทศของเวียดนามจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น

จุดเปลี่ยนด้านกลไกทางกฎหมายที่สำคัญ

ก่อนที่เวียดนามเข้าร่วมกิจกรรมรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ เวียดนามได้เริ่มปฏิบัติหน้าที่ด้านการเงินประจำปี สำหรับกิจกรรมการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติตั้งแต่ปี 1996  รวมทั้งได้จัดคณะผู้แทนเยือนคณะเฉพาะกิจรักษาสันติภาพของสหประชาชาติและสำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติหลายครั้ง จนถึงขณะนี้ เวียดนามได้ส่งเจ้าหน้าที่ทหาร 1 พัน 1 ร้อยนายไปปฏิบัติหน้าที่รักษาสันติภาพในคณะเฉพาะกิจต่างๆ และลงนามบันทึกช่วยจำ 10 ฉบับกับหุ้นส่วนต่างๆ

ภายหลัง 11 ปีของการส่งกองกำลังเข้าร่วมกิจกรรมรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ การจัดทำกฎหมายว่าด้วยการเข้าร่วมกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติเอื้อให้เวียดนามมีส่วนร่วมในกิจกรรมรักษาสันติภาพของสหประชาชาติอย่างมีประสิทธิภาพและกว้างลึกมากขึ้น พลเอก ฟานวันยาง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเวียดนามได้ยืนยันว่า

“การประกาศใช้กฎหมายฉบับนี้ก็เพื่อแปรแนวทางของพรรคให้เป็นรูปธรรม และปรับปรุงกรอบทางนิตินัยให้มีความสมบูรณ์เพื่อค้ำประกันความพร้อมเพรียงของระบบกฎหมายเวียดนามให้สอดคล้องกับกฎบัตรสหประชาชาติและอนุสัญญาระหว่างประเทศที่เวียดนามเป็นภาคี การเข้าร่วมกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติช่วยให้เวียดนามผสมผสานเข้ากับกระแสโลกมากขึ้น ยกระดับสถานะและชื่อเสียงของเวียดนามบนเวทีโลก”

กฏหมายฉบับนี้มี 4 บรรพและ 26 มาตรา โดยระบุถึงนโยบายต่างๆ ซึ่งประกอบด้วย การสร้างและส่งกองกำลังเวียดนามเข้าร่วมกิจกรรมการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ โดยเฉพาะมีกลไกที่ชัดเจนเพื่อค้ำประกันแหล่งพลัง สิทธิประโยชน์ และนโยบายสำหรับกองกำลังที่เข้าร่วมกิจกรรมรักษาสันติภาพของสหรปะชาชาติ พันเอก เลก๊วกฮวี จากสำนักงานดูแลภารกิจการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติของกระทรวงความมั่นคงสาธารณะเวียดนามได้เผยว่า

“กฎหมายนี้เน้นถึงการยกระดับและเพิ่มเติมข้อกำหนดใหม่ในนโยบายการให้สิทธิพิเศษสำหรับกองกำลังที่เข้าร่วมกิจกรรมรักษาสันติภาพที่ถูกระบุในเอกสารกฎหมายก่อนหน้านั้นแล้ว เพื่อให้กำลังใจและเอื้ออำนวยให้เจ้าหน้าที่ทหารเข้าร่วมกิจกรรมรักษาสันติภาพ”

ในสภาวการณ์ที่เวียดนามกำลังผลักดันการผสมผสานและความร่วมมือระหว่างประเทศทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี โดยเฉพาะกับสหประชาชาติ การที่กฎหมายนี้ระบุเพิ่มขอบเขตหน่วยงานที่สามารถส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมกองกำลังนี้นั้นสอดคล้องกับแนวโน้มร่วมของสหประชาชาติ เพราะในภาคการปฏิบัติจริง กิจกรรมการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติไม่เพียงแต่ต้องการกองกำลังทหารเท่านั้น หากยังต้องการผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข กฎหมาย พลาธิการ และการศึกษา อีกด้วย ซึ่งการระดมกองกำลังพลเรือนที่เป็นมืออาชีพเหล่านี้จะช่วยยกระดับประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่และขยายขอบเขตการมีส่วนร่วมของเวียดนาม พันโท โตลอง รองปลัดสำนักงานการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ รองอธิบดีกรมความมั่นคงการต่างประเทศของกระทรวงความมั่นคงสาธารณะเวียดนามได้ยืนยันว่า

“กฎหมายนี้จะสร้างพื้นฐานทางนิตินัยและช่วยให้การบังคับใช้มีความสะดวก ถูกต้องตามกฎหมาย   ใช้ประสบการณ์ของเวียดนามในการเข้าร่วมกิจกรรมรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในเวลาที่ผ่านมา ส่งเสริมการเข้าร่วมกิจกรรมรักษาสันติภาพของกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ กระทรวงกลาโหมและพลเรือน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบของเวียดนามต่อการปฏิบัติหน้าที่ระหว่างประเทศ”

จากการเข้าร่วมอย่างแข็งขันมาสู่การมีส่วนร่วมในเชิงรุกต่อหน้าที่รักษาสันติภาพ

ควบคู่กับกองกำลังติดอาวุธ การที่เวียดนามมีกองกำลังพลเรือนเข้าร่วมคณะเฉพาะกิจรักษาสันติภาพของสหประชาชาติไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นถึงภาพลักษณ์ของประชาชาติที่ใฝ่สันติภาพและความเป็นมนุษย์เท่านั้น หากยังแสดงให้เห็นถึงจิตใจพร้อมเสียสละเพื่อประชาคมระหว่างประเทศ

ในกรอบการเยือนเวียดนามในระหว่างวันที่ 12 -14 มิถุนายน นาย Jean-Pierre Lacroix  รองเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติที่ดูแลกิจกรรมการรักษาสันติภาพได้ชื่นชมความพยายามเป็นฝ่ายรุกของเวียดนามในการส่งกองกำลังเข้าร่วมกิจกรรมรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ รวมทั้งการปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการเข้าร่วมกิจกรรมการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติให้มีความสมบูรณ์

“เวียดนามได้แสดงคำมั่นที่เข้มแข็งต่อสหประชาชาติ รวมทั้งกิจกรรมการรักษาสันติภาพ พวกเราชื่นชมทักษะความสามารถและความเป็นมืออาชีพของกองกำลังรักษาสันติภาพเวียดนามที่ปรับตัวและปฏิบัติหน้าที่อย่างลุล่วงไปด้วยดีแม้ในสภาพอากาศที่แปรปรวน การมีส่วนร่วมของเวียดนามได้ช่วยให้เราสร้างก้าวกระโดดในการรักษาสันติภาพ โดยเฉพาะให้ความช่วยเหลือชุมชนในเขตที่ได้รับผลกระทบจากการปะทะ การประกาศใช้กฎหมายนี้มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ค้ำประกันความสำเร็จของกิจกรรมรักษาสันติภาพของเวียดนามในเวลาที่จะถึง”

บนพื้นฐานของการค้ำประกันการเข้าร่วมที่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของประเทศ ประชาชาติและเงื่อนไขของตน ให้ความเคารพเอกราช อธิปไตย ความเสมอภาคและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศต่างๆ ส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศและปกป้องสิทธิมนุษยชน เวียดนามกำลังปรับเปลี่ยนจากการเข้าร่วมอย่างเข้มแข็งมาเป็นการเข้าร่วมในเชิงรุก การประกาศใช้กฎหมายว่าด้วยการเข้าร่วมกิจกรรมการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติเป็นการยืนยันคำมั่นที่เข็มแข็งของเวียดนามต่อการมีส่วนร่วมต่องานด้านการรักษาสันติภาพและ มีส่วนร่วมปฏิบัติยุทธศาสตร์การปกป้องปิตุภูมิตั้งแต่เนิ่นๆด้วยสันติวิธี.