เวียดนามให้คำมั่นที่จะเป็นหุ้นส่วนที่น่าไว้วางใจและพร้อมที่จะร่วมมือในความพยายามของโลกเพื่อปกป้องมหาสมุทร (VGP)

ภายใต้หัวข้อ “ผลักดันการปฏิบัติและระดมให้ทุกฝ่ายเข้าร่วมการอนุรักษ์และใช้มหาสมุทรอย่างยั่งยืน” การประชุม UNOC 3 ถือเป็นโอกาสให้ผู้นำในทั่วโลกหารือมาตรการแก้ไขและออกคำมั่นเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทะเลในทศวรรษต่อๆ ไป โดยเนื้อหาต่างๆ ที่หารือในการประชุมครั้งนี้สอดคล้องกับการกำหนดแนวทางที่สำคัญของเวียดนามเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจทางทะเลอย่างยั่งยืน ขยายความร่วมมือเพื่อมหาสมุทรแห่งสีเขียว สันติภาพ เสถียรภาพ ยั่งยืนและเจริญรุ่งเรือง

ร่วมกันฟื้นฟูเศรษฐกิจมหาสมุทร

เนื้อหาที่ได้รับการหารือในการประชุมครั้งนี้มีความหลากหลายเป็นอย่างมาก ซึ่งล้วนเป็นปัญหาที่ประชาคมระหว่างประเทศต้องเผชิญและต้องร่วมมือกันในระดับนานาชาติ เช่น การดึงดูดแหล่งพลังด้านการเงิน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่หลากหลายเพื่อแก้ไขความท้าทายและธรรมภิบาลด้านมหาสมุทรอย่างมีประสิทธิภาพ เอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนาในระยะยาว การเข้าร่วมการประชุม UNOC 3 ถือเป็นโอกาสให้เวียดนามเสนอผลสำเร็จที่ได้บรรลุในการปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาสหัสวรรษแห่งสหประชาชาติ โดยเฉพาะในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเล แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับนานาประเทศและขยายความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุปกรณ์และการเงินสำหรับการปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจทางทะเลในเวียดนาม

บนเจตนารมณ์ดังกล่าว เมื่อวันที่ 8 ที่ผ่านมา ในการกล่าวปราศรัยในการประชุมครบองค์ครั้งที่ 4 ฟอรั่มการเงินและเศรษฐกิจแห่งสีเขียว ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมสำคัญที่มีขึ้นก่อนพิธีเปิดการประชุม  UNOC 3 นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ยืนยันว่า เพื่ออนุรักษ์และพัฒนามหาสมุทรอย่างยั่งยืน จำเป็นต้องมีความร่วมมือในระดับโลก

“ส่งเสริมการลงทุนวิจัย การประยุกต์ใข้วิทยาศาสตร์ทะเล ผลักดันการถ่ายทอดเทคโนโลยี แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และร่วมกันสร้างสรรค์ฐานข้อมูล ส่งเสริมการใช้และพัฒนาแศรษฐกิจทางทะเลอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ โดยสหประชาชาติเป็นศูนย์กลาง กฎหมายสากลเป็นพื้นฐานและความร่วมมือระหว่างประเทศเป็นพลังขับเคลื่อนในการแนะแนว”

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ยังระบุเกี่ยวกับสถานการณ์ของมหาสมุทรที่คิดเป็นร้อยละ 70 ของผิวโลก แต่การอนุรักษ์และใช้มหาสมุทรอย่างยั่งยืนกลับเป็นการลงทุนที่น้อยที่สุด 1 ใน 17 เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ ถือเป็นสิ่งที่มย้อนแย้ง ซึ่งยิ่งกว่าเวลาใด ทุกประเทศต้องพยายามร่วมมือมากขึ้นด้วยวิธีการเข้าถึงที่รอบด้าน ทั้งในระดับประชาชนและทั่วโลก

“ส่งเสริมการเชื่อมโยงระหว่างทวีป ระหว่างภูมิภาค ระหว่างประเทศและธรรมาภิบาลระดับโลกเกี่ยวกับมหาสมุทรแห่งสีเขียว รัฐต้องเป็นผู้แนะแนว สถานประกอบการเป็นผู้เดินหน้าและประชาชนเป็นผู้ขานรับ องค์กรระหว่างประเทศเป็นผู้สร้างสรรค์และบรรดาประเทศพัฒนาเป็นผู้สนับสนุน เพื่อสร้างระบบนิเวศการเงินมหาสมุทรแห่งสีเขียว เวียดนามพร้อมที่จะเป็นผู้เดินหน้าในการทดลองรูปแบบนี้”

เวียดนามให้คำมั่นปฏิบัติเพื่อมหาสมุทรแห่งสีเขียว

เวียดนามเป็นประเทศที่มีชายฝั่งทะเลยาวกว่า 3,000 กิโลเมตร ซึ่งมีความสำคัญในด้านภูมิศาสตร์ เอกลักษณ์วัฒนธรรมและจิตใจแห่งประชาชาติ การพัฒนาทะเลและเศรษฐกิจทางทะเลอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพนั้นเป็นความต้องการที่เป็นภาวะวิสัย จำเป็นเร่งด่วนและเป็นทางเลือกเชิงยุทธศาสตร์เพื่อช่วยให้เวียดนามไปสู่ตลาดโลกและปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาเป็นประเทศที่เข้มแข็งในด้านทะเลและเป็นประเทศพัฒนาที่มีรายได้สูงภายในปี 2045

เพื่อสร้างขั้วการพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียวทางทะเลและสร้างความเชื่อมโยงศูนย์เศรษฐกิจต่างๆ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ยืนยันว่า เวียดนามพร้อมที่จะเข้าร่วมและมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งเพื่อพัฒนาเครือข่ายที่สำคัญนี้ในทะเลตะวันออก ซึ่งเป็นเขตทะเลเชิงยุทธศาสตร์ของโลก

“สำหรับแต่ละประเทศและแต่ละประชาชาติ ซึ่งถึงแม้จะมีความแตกต่างกันในด้านกลไก การเมือง ระดับการพัฒนาในด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรม แต่เรามีภารกิจร่วมกันคือ ธำรงอนุรักษ์มหาสมุทรให้แก่วันนี้และวันต่อๆ ไป จากการเป็นประเทศริมฝั่งทะเล เวียดนามให้คำมั่นที่จะเป็นหุ้นส่วนที่น่าไว้วางใจ พร้อมที่จะเดินพร้อมในความพยายามระหว่างประเทศต่างๆ เพื่อปกป้องมหาสมุทร เป็นหุ้นส่วนที่เข้มแข็งและพร้อมเข้าร่วมการแนะแนวกลไกความร่วมมือต่างๆ ในด้านนี้ เป็นหุ้นส่วนที่มีความรับผิดชอบและพร้อมที่จะมีส่วนร่วมต่อความคิดริเริ่มต่างๆ ในด้านการเงินเพื่อพัฒนามหาสมุทรแห่งสีเขียว ยุติธรรมและยั่งยืน”

บนเจตนารมณ์ดังกล่าว ในการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ในกรอบการประชุม UNOC 3 นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ส่งสารและคำมั่นที่เข้มแข็งเกี่ยวกับการที่เวียดนามผลักดันความร่วมมือพหุภาคีในการอนุรักษ์และพัฒนามหาสมุทรอย่างยั่งยืนและมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งมากขึ้นในปัญหาระดับโลกต่างๆ.