ภาพการประชุม (VGP)

เวียดนามกำลังปฏิบัติกระบวนการปรับโครงสร้างองค์กรในระบบการเมืองให้กระทัดรัดเพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่การพัฒนาและการขยายตัวใหม่ โดยรัฐบาลตั้งเป้าไว้ว่า ท้องถิ่นต่างๆทั้งประเทศจะเริ่มดำเนินการบริหารราชการใน 2 ระดับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม

เป็นฝ่ายรุกในการดำเนินงานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์

นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เผยว่า การปฏิวัติด้านการปฏิรูปองค์กรในระบบการเมืองครั้งนี้ที่เวียดนามไม่เพียงแต่เปิดบรรยากาศให้แก่การพัฒนาใหม่และเป็นพลังขับเคลื่อนใหม่ที่มีขอบเขตและกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขวางมากขึ้น เข้มแข็งและรอบด้านมากขึ้นเท่านั้น แต่ที่สำคัญคือปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของทั้งระบบการเมือง จากการรอคำสั่งเพียงอย่างเดียวขาดความคิดสร้างสรรค์ มาเป็นการเดินหน้าแก้ไขปัญหาของประชาชนและสถานประกอบการอย่างมีความคิดสร้างสรรค์

“นี่เป็นปัญหาที่สำคัญที่สุดในการปฎิรูปกลไกภาครัฐครั้งนี้ ซึ่งต้องส่งเสริมให้มีความเข้าใจแนวทางนี้อย่างลึกซึ้งมากขึ้นเพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนตั้งความหวังและมิตรประเทศให้ความสนใจ แต่แน่นอนว่าเราต้องรอประสิทธิภาพจากกระบวนการนี้ที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจและสังคมอย่างไร”

นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้กำชับว่าเพื่อเป็นฝ่ายรุกและมีความคิดสร้างสรรค์ในการรับใช้ประชาชน ทุกหน่วยงานจะต้องมีความใกล้ชิดกับประชาชนและเกาะติดสถานการณ์ โดยทั้งองค์กรพรรค ทางการปกครองท้องถิ่นและแนวร่วมปิตุภูมิต้องลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์มากขึ้นเพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและมีมาตรการแก้ไขให้สอดคล้องกับสถานการณ์และความปรารถนาของประชาชน แต่ในขณะเดียวกันระบบการบริหารตั้งแต่ ส่วนกลางก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนการทำงานเช่นกัน

“ส่วนกลางจะไม่เป็นฝ่ายปฏิบัติงานโดยตรงแต่ทำหน้าที่ในเชิงการบริหาร การวางแผนงาน การจัดทำยุทธศาสตร์ กลไก นโยบายและกฎหมายเพื่อระดมแหล่งพลังเพื่อการพัฒนา ตรวจสอบและควบคุมอำนาจ ประเมินและสรุปผลการปฏิบัติเพื่อถอดประสบการณ์และ ขยายผลรูปแบบที่ดีและวิธีการปฏิบัติที่ดีเพื่อแก้ไขอุปสรรคและความท้าทายต่างๆ”

นายกรัฐมนตรีกล่าวปราศรัยในการประชุม(VGP)

ผลักดันการกระจายอำนาจในระดับท้องถิ่น

หนึ่งในประเด็นสำคัญที่นายกรัฐมนตรีย้ำเป็นพิเศษในการประชุมคือ ต้องผลักดันการกระจายอำนาจในระดับท้องถิ่น ซึ่งเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงรูปแบบธรรมาภิบาลที่สร้างสรรค์ ซึ่งรัฐจะมอบอำนาจให้ทางการท้องถิ่นสามารถเข้าถึงและมีความเข้าใจประชาชนและปฏิบัติอย่างรวดเร็วมากขึ้น โดยกระทรวง สำนักงานที่มีอำนาจเทียบเท่าส่วนกลางได้ยื่นเสนอให้รัฐบาลประกาศใช้มติ 28 ฉบับเกี่ยวกับการกระจายอำนาจให้แก่หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆ ตามสาขาอาชีพที่รับผิดชอบ เช่น ตุลาการ ภาษีศุลกากร การจัดการและใช้ทรัพย์สินของรัฐ งานด้านชาติพันธุ์ ความเชื่อและศาสนา เป็นต้น ซึ่งเป็นผลจากกระบวนการตรวจสอบเพื่อประเมินอำนาจหน้าที่ของทุกหน่วยงานที่ไม่เพียงแต่ช่วยแก้ไขปัญหาที่ยังคั่งค้างอยู่ของกลไกการบริหารราชการเท่านั้น หากยังเป็นการวางพื้นฐานให้แก่การสร้างสรรค์รูปแบบธรรมาภิบาลที่ทันสมัย มีประสิทธิผลและใกล้ชิดกับประชาชน

พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามมีเป้าหมายเดียวคือ นำเอกราชและเสรีภาพมาให้แก่ประชาชาติ ปกป้องอธิปไตย บูรณะภาพแห่งดินแดนและนำชีวิตที่อิ่มหนำผาสุกมาให้แก่ประชาชน ซึ่งกระบวนการปฏิรูปโครงสร้างองค์กรที่กำลังได้รับการปฏิบัติจะสร้างความแข็งแกร่งแบบบูรณะการเพื่อการพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรืองมากขึ้น.