การประชุมสุดยอดจี 20 เน้นส่งเสริมประเด็นที่ได้รับความสนใจของภูมิภาคแอฟริกาและประเทศกำลังพัฒนา

(VOVWORLD) -การประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 20 ประเทศ หรือ จี 20 ที่มีขึ้นระหว่างวันที่ 22-23 พฤศจิกายน ณ เมืองโจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้เน้นส่งเสริมความพยายามของโลกเพื่อช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะประเทศต่างๆในภูมิภาคแอฟริกาในปัญหาด้านสภาพภูมิอากาศ พลังงานและการคลังสาธารณะ

การประชุมสุดยอดจี 20 ปีนี้ภายใต้หัวข้อ “ความสามัคคี ความเสมอภาค ความยั่งยืน”มีการเข้าร่วมของผู้นำประเทศสมาชิกส่วนใหญ่และองค์กรสมาชิกของกลุ่ม และประเทศรับเชิญต่างๆ แต่อย่างไรก็ตาม สหรัฐ ซึ่งเป็นเศรษฐกิจรายใหญ่ที่สุดของกลุ่มฯไม่เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้

 ประเด็นที่ได้รับความสนใจของภูมิภาคแอฟริกา

นับเป็นครั้งแรกที่การประชุมสุดยอดจี 20 ถูกจัดขึ้นในภูมิภาคแอฟริกา จึงมีความหมายสำคัญต่อประเทศเจ้าภาพแอฟริกาใต้และภูมิภาคแอฟริกา  ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในหัวข้อของการประชุมและระเบียบวาระการประชุมที่แอฟริกาใต้เสนอ โดยเน้นถึงการส่งเสริมความสามัคคีระหว่างประเทศ การช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาในการรับมือกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ผลักดันการปรับเปลี่ยนด้านพลังงานและการลดหนี้สาธารณะ

ในรายงานของการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนาหรือ UNCTAD ที่ได้รับการประกาศก่อนการประชุมสุดยอดจี 20 ระบุว่า ประเทศกำลังพัฒนามีหนี้สิน 31 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับปี 2010 ซึ่งในนั้น อัตราส่วนหนี้สินต่อ GDP ของประเทศต่างๆในภูมิภาคแอฟริกาใต้ทะเลทรายซาฮาราเฉลี่ยอยู่ที่ 58.5%  ซึ่งต่ำกว่าเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐคือ125%  ญี่ปุ่นคือ 230% แต่การชำระหนี้ต่อหัวประชากรในประเทศแอฟริกาสูงกว่าการลงทุนในด้านสำคัญอื่นๆ  โดยตามข้อมูลของสหประชาชาติ ในช่วงปี 2021 -2023 รัฐบาลประเทศต่างๆในภูมิภาคแอฟริกาต้องจ่ายดอกเบี้ยเฉลี่ยคนละ 70 ดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาที่ 63 ดอลลาร์สหรัฐและด้านสาธารณสุขที่ 44 ดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้น การลดหนี้และการขยายเวลาการชำระหนี้ให้แก่บรรดาประเทศแอฟริกาจึงเป็นประเด็นใหญ่ในการประชุมครั้งนี้

นาง Elizabeth Sidiropoulos ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารสถาบันปัญหาระหว่างประเทศของแอฟริกาใต้หรือ SAIIA เผยว่า จากการที่แอฟริกาเป็นเจ้าภาพและสหภาพแอฟริกหรือ AU เป็นสมาชิกของกลุ่มจี 20 ทำให้ภูมิภาคแอฟริกามีความได้เปรียบเพื่อส่งเสริมการหารือเกี่ยวกับการปฏิรูประบบการเงินโลกและประเด็นที่ได้รับความสนใจอื่นๆของแอฟริกา โดยเฉพาะเมื่อแอฟริกาใต้ส่งมอบตำแหน่งประธานจี 20 ให้แก่สหรัฐ  สำหรับจุดยืนนี้ นาง Busisipho Syobi  นักวิจัยนโยบายสาธารณะขององค์การธรรมาภิบาลแอฟริกหรือ GGA ที่มีสำนักงานในเมืองโจฮันเนสเบิร์กเผยว่า แอฟริกามีแหล่งทรัพยากรแร่ธาตุที่สำคัญต่อการปรับเปลี่ยนด้านพลังงานของโลกแต่ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์มากนัก ดังนั้น การประชุมสุดยอดจี 20 ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสเพื่อพูดคุยเรื่องดังกล่าว 

“ต้องหาทางค้ำประกันให้แอฟริกาได้รับผลประโยชน์จากแร่ธาตุเพื่อสนับสนุนการแก้ไขวิกฤตพลังงานในภูมิภาคนี้ ปัจจุบัน ชาวแอฟริกาประมาณ 600 ล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้ ดังนั้น ต้องค้ำประกันการปรับเปลี่ยนด้านพลังงานสามารถเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าว”

เพื่อยืนยันความพยายามดังกล่าว ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ก่อนเปิดการประชุมสุดยอดจี 20 แอฟริกาใต้ได้ร่วมกับสหภาพยุโรปหรืออียูลงนามข้อตกลงแร่ธาตุสำคัญ โดยแอฟริกาใต้จะจัดสรรแร่ธาตุสำคัญเพื่อสนับสนุนกระบวนการปรับเปลี่ยนด้านพลังงานผ่านการจัดตั้งห่วงโซ่การขุดเจาะและแปรรูปในแอฟริกาใต้

กำหนดบทบาทของกลุ่มจี 20

นอกจากประเด็นที่ได้รับความสนใจของแอฟริกาแล้ว  การประชุมสุดยอดจี 20 จะเน้นหารือเกี่ยวกับความท้าทายใหญ่ รวมทั้งการธำรงบทบาทสำคัญของลัทธิพหุภาคีในสภาวการณ์ที่เกิดความไร้เสถียรภาพทางภูมิรัฐศาสตร์ในปัจจุบัน   การที่ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ประกาศไม่เข้าร่วมและไม่ส่งคณะผู้แทนระดับสูงของสหรัฐเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ในขณะที่ ประธานประเทศจีน สีจิ้นผิง และผู้นำประเทศอาร์เจนตินาและเม็กซิโกไม่เข้าร่วมการประชุมจะทำให้โอกาสที่กลุ่มจี 20 ออกแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับปัญหาการเงินเพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การค้าโลกและการลดหนี้ให้แก่ประเทศกำลังพัฒนาน้อยลง แต่บรรดาผู้สังเกตการณ์เห็นว่า ความแบ่งฝักฝ่ายในกลุ่มจี 20 เนื่องจากการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์และความขัดแย้งด้านการค้าได้เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนการประชุมสุดยอดจี20  ดังนั้น กลุ่มจี 20 ต้องตระหนักถึงความท้าทายปัจจุบันเพื่อกำหนดแนวทางเชิงยุทธศาสตร์ให้แก่ระยะต่อไปแทนการแก้ไขความขัดแย้งเฉพาะหน้า

บรรดานักวิเคราะห์เห็นว่า แม้การเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐบาลสหรัฐจะส่งผลกระทบต่อแนวทางของกลุ่มจี 20    แต่ประเทศสมาชิกที่เหลือของกลุ่มฯยังคงมีความแข็งแกร่งเพียงพอเพื่อส่งเสริมประเด็นที่ได้รับความสนใจของกลุ่มคือ ลัทธิพหุภาคีและการค้าเสรี ในรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน องค์การการค้าโลกหรือ WTO ระบุว่า มูลค่าการนำเข้าของกลุ่มประเทศจี 20 ในช่วงกลางเดือนตุลาคมปี 2024 ถึงกลางเดือนตุลาคมปี 2025 ได้เพิ่มขึ้น 4 เท่า เนื่องจากนโยบายด้านภาษีของสหรัฐส่งเสริมให้ประเทศอื่นๆดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการค้า ซึ่งสิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของประเทศส่วนใหญ่ในการลดต้นทุนการค้าในสภาวการณ์ที่ลัทธิคุ้มครองการค้าเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ความต้องการสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่เพิ่มสูงขึ้น ยังช่วยให้กลุ่มประเทศจี 20 ซึ่งเป็นประเทศนำหน้าด้านเทคโนโลยี มีบทบาทมากขึ้นในกระแสการค้าโลก.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด