English Vietnamese Chinese French German Indonesian Japanese Khmer Korean Laotian Russian Spanish Thai

17°C - 27°C

ข้อเสนอหยุดยิงเป็นเวลา 30 วันเปิดความหวังเกี่ยวกับการยุติการปะทะรัสเซีย-ยูเครน

(VOVWORLD) - เมื่อวันที่ 11 มีนาคม สหรัฐและยูเครนได้ทำการเจรจา ณ เมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย และออกแถลงการณ์ร่วมโดยมีเนื้อหาหลักคือ การเสนอคำสั่งหยุดยิงอย่างสมบูรณ์เป็นเวลา 30 วันระหว่างรัสเซียกับยูเครน นี่คือการเคลื่อนไหวทางการทูตที่สำคัญที่สุดในรอบกว่า 3 ปีเพื่อยุติการปะทะครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
ข้อเสนอหยุดยิงเป็นเวลา 30 วันเปิดความหวังเกี่ยวกับการยุติการปะทะรัสเซีย-ยูเครน - ảnh 1การเจรจาระหว่างคณะผู้แทนของสหรัฐและยูเครน เมื่อค่ำวันที่ 11 มีนาคม ณ เมืองเจดดาห์ (THX)

ข้อเสนอหยุดยิงเป็นประเด็นหลักของการเจรจาเมื่อค่ำวันที่ 11 มีนาคม ณ เมืองเจดดาห์ ระหว่างคณะนักการทูตสหรัฐ นำโดยรัฐมนตรีต่างประเทศ มาร์โก รูบิโอ และที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ ไมค์ วอลซ์ กับคณะผู้แทนยูเครน นำโดยปลัดสำนักประธานาธิบดี อังเดร เยอร์มัค รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม รุสเตม อูเมรอฟ และรัฐมนตรีต่างประเทศ อังเดร ซีบีฮา

การหยุดยิงอย่างสมบูรณ์

ตามข้อเสนอของฝ่ายสหรัฐ จะมีการบังคับใช้คำสั่งหยุดยิงเป็นเวลา 30 วันเพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการปะทะระหว่างรัสเซียกับยูเครนสามารถส่งเสริมกิจกรรมทางการทูตเพื่อยุติการปะทะ คำสั่งหยุดยิงนี้สามารถขยายผลบังคับใช้ ได้ตามข้อตกลงของทุกฝ่าย โดยฝ่ายสหรัฐให้คำมั่นที่จะหารือเกี่ยวกับข้อเสนอที่เป็นรูปธรรมนี้กับตัวแทนของรัสเซีย ในขณะที่คณะผู้แทนของยูเครนย้ำว่า หุ้นส่วนยุโรปของประเทศนี้ต้องได้รับการอนุญาตให้เข้าร่วมกระบวนการเจรจาสันติภาพ ในแถลงการณ์หลังจากที่การเจรจาเสร็จสิ้นลง  ประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ซึ่งกำลังอยู่ในเมืองเจดดาห์แต่ไม่เข้าร่วมการเจรจาได้ประกาศยอมรับข้อเสนอหยุดยิง แต่ย้ำถึงเงื่อนไขคือ ฝ่ายรัสเซียจะต้องเห็นด้วยเช่นกัน และการหยุดยิงจะต้องครอบคลุมทั้งทางอากาศ ทางทะเลและทางบก

“ยูเครนยอมรับข้อเสนอนี้ เราถือว่า นี่เป็นการเคลื่อนไหวในเชิงบวก และพร้อมที่จะดำเนินการตามขั้นตอนนี้ ฝ่ายสหรัฐต้องโน้มน้าวให้รัสเซียมีปฏิบัติการเช่นเดียวกัน เราเห็นด้วยและถ้าหากฝ่ายรัสเซียเห็นด้วย คำสั่งหยุดยิงจะมีผลบังคับใช้ทันที”

ด้วยการที่ยูเครนยอมรับข้อเสนอหยุดยิงและเห็นพ้องที่จะลงนามข้อตกลงแร่ธาตุในเบื้องต้นให้เร็วที่สุด ทางการสหรัฐเผยว่า จะฟื้นฟูการช่วยเหลือทางทหารและแลกเปลี่ยนข่าวกรองกับยูเครน และ จะหารือกับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดีเมียร์ ปูติน โดยเร็วเพื่อโน้มน้าวให้ฝ่ายรัสเซียยอมรับข้อเสนอหยุดยิง

แรงกดดันทางการทูตอยู่ในฝ่ายรัสเซีย

ข้อเสนอหยุดยิงเป็นเวลา 30 วันที่เสนอโดยสหรัฐและยูเครนได้รับการชื่นชมจากประชาคมระหว่างประเทศ โดยผู้นำยุโรปหลายคน รวมทั้ง นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เคียร์ สตาร์เมอร์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง และนายกรัฐมนตรีโปแลนด์ โดนัลด์ ทัสค์ ได้ประเมินว่า ข้อเสนอนี้เป็นก้าวเดินที่สำคัญเพื่อมุ่งสู่การบรรลุข้อตกลงสันติภาพ และยุติการปะทะระหว่างรัสเซียกับยูเครนโดยสิ้นเชิง แต่อย่างไรก็ตาม ประเทศในยุโรปยังคงย้ำถึงความจำเป็นในการค้ำประกันความมั่นคงในระยะยาวในทุกกรณีให้แก่ยูเครนทั้งนี้แรงกดดันทางการทูตขณะนี้ได้เปลี่ยนมาอยู่ที่ฝ่ายรัสเซีย  ซึ่งในกรณีที่มอสโคว์ไม่ยอมรับหรือชะลอข้อเสนอหยุดยิง ความสัมพันธ์ที่กำลังมีสัญญาณที่ดีขึ้นระหว่างรัสเซียกับสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบในทางลบ  นี่ก็เป็นสิ่งที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ มาร์โก รูบิโอ ได้เตือนในคำประกาศหลังการเจรจากับยูเครน ณ เมืองเจดดาห์ เมื่อย้ำว่า “ขณะนี้ ลูกบอลอยู่ที่ฝ่ายรัสเซีย” และประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการสันติภาพในทันที ดังนั้น ทางการสหรัฐจึงพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้

“ฝ่ายยูเครนได้ยอมรับการหยุดยิงและเริ่มการเจรจา ขณะนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับฝ่ายรัสเซีย ผมหวังว่า พวกเขาจะเห็นด้วยและเราจะบรรลุความคืบหน้าที่ยิ่งใหญ่ ถ้าหากพวกเขาปฏิเสธ เราทุกคนต่างก็เข้าใจในความท้าทายต่อสันติภาพ และประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ก็แสดงท่าทีที่ชัดเจนแล้วว่าเขาต้องการหยุดยิง”

ตามความเห็นของบรรดาผู้สังเกตการณ์ รัสเซียจะพิจารณาอย่างรอบคอบข้อเสนอหยุดยิงของสหรัฐและยูเครน ในสภาวการณ์ที่การปะทะระหว่างรัสเซียกับยูเครนยังคงมีความรุนแรงในหลายด้าน ในแถลงการณ์ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 11 มีนาคม นาย ดมีตรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลินได้เตือนว่า ประชาชนรัสเซียอย่าเพิ่งดีใจกับการเคลื่อนไหวในเชิงบวกเมื่อล่าสุดนี้จากทางการสหรัฐ และต้องเตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดอยู่เสมอ นาย เปสคอฟ ยังยืนยันว่า กิจกรรมทางการทูตทั้งหมดในเวลาที่ผ่านมา เป็นเพียงการสำรวจความตั้งใจของทุกฝ่ายเท่านั้นโดยยังไม่มีการเจรจาที่จริงจังใดๆเกิดขึ้น ดังนั้น กองทัพรัสเซียจะยังคงมีปฏิบัติการต่อไปตามหน้าที่ที่ได้วางไว้ ก่อนที่จะมีการเจรจาต่างๆ   .

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด