เอกราชและเสรีภาพยังคงทรงคุณค่าแห่งยุคสมัย
Huyen-VOV5 -  
( VOVworld )-วันที่ ๒ กันยายนก่อนหน้านี้ ๖๘ ปี หลังจากที่นำประชาชนทำการลุกขึ้นปฏิวัติในวันที่ ๑๙ สิงหาคมจนประสบชัยชนะ ณ จัตุรัสบาดิ่ง กรุงฮานอย ประธานโฮจิมินห์ได้อ่านปฏิญญาเอกราชอันเป็นการให้กำเนิดสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามหรือสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามในปัจจุบัน ซึ่งนักวิชาการและนักการเมืองหลายประเทศได้ชื่นชมว่า จิตใจแห่งการปฏิวัติในเดือนสิงหาคมและวันชาติ ๒ กันยายนเมื่อปีค.ศ. ๑๙๔๕ ยังคงทรงคุณค่าแห่งยุคสมัยตลอดไป
ประธานโฮจิมินห์อ่านปฏิญญาเอกราช ณ จัตุรัสบาดิ่ง
( VOVworld )-วันที่ ๒ กันยายนก่อนหน้านี้ ๖๘ ปี หลังจากที่นำประชาชนทำการลุกขึ้นปฏิวัติในวันที่ ๑๙ สิงหาคมจนประสบชัยชนะ ณ จัตุรัสบาดิ่ง กรุงฮานอย ประธานโฮจิมินห์ได้อ่านปฏิญญาเอกราชอันเป็นการให้กำเนิดสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามหรือสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามในปัจจุบัน ซึ่งนักวิชาการและนักการเมืองหลายประเทศได้ชื่นชมว่า จิตใจแห่งการปฏิวัติในเดือนสิงหาคมและวันชาติ ๒ กันยายนเมื่อปีค.ศ. ๑๙๔๕ ยังคงทรงคุณค่าแห่งยุคสมัยตลอดไป
แม้เวลาจะล่วงเลยมา ๖๙ ปีแล้วก็ตาม แต่เพื่อนมิตรต่างประเทศยังคงชื่นชมการปฏิวัติที่ประสบความสำเร็จในเดือนสิงหาคมว่า ไม่เพียงแต่ประชาชาติเวียดนามเท่านั้น หากชนชั้นแรงงานและประชาชาติที่ถูกกดขี่ขุดรีดในทั่วโลกต่างรู้สึกภาคภูมิใจว่า นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การปฏิวัติของประชาชาติที่เป็นเมืองขึ้นหรือกึ่งเมืองขึ้น พรรคที่ยังเยาว์วัยสามารถนำการปฏิวัติประสบชัยชนะ ชัยชนะในเดือนสิงหาคมปีค.ศ. ๑๙๔๕ ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แก่เวียดนามและนานาประเทศอันเป็นการสะท้อนความปรารถนาของประชาชาติที่เป็นเมืองขึ้นว่า จะได้อยู่ในสันติภาพและความยุติธรรม เป็นแบบอย่างและการส่งเสริมให้กำลังใจประชาชาติดังกล่าวลุกขึ้นสู้เพื่อกอบกู้เอกราชมาให้แก่ประเทศของตนเอง อันเป็นการยุติลัทธิเมืองขึ้นและจักรวรรดิ ดังนั้น แต่ละปี มีเพื่อนมิตรต่างประเทศ ชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศกว่า ๔ ล้านคนร่วมกับชาวเวียดนามกว่า ๘๖ ล้านคนฉลองงานวันแห่งเอกราช นาย ดูคลาส จาร์ดินศาสตราจารย์ประวัติศาสตร์ชาวอเมริกัน ซึ่งกำลังสอนที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติฮานอยได้ชื่นชมผลสำเร็จของเวียดนามว่า “ อาจถือวันที่ ๒ กันยายนเป็นวันให้กำเนิดประชาชาติเวียดนาม แต่ผมเห็นว่า วันนี้ยังมีอีกความหมายคือ เวียดนามเป็นประเทศแรกในภูมิภาคที่สามารถปลดแอกปกครองของนักล่าเมืองขึ้นกลายเป็นประเทศที่มีเอกราชและเสรีภาพ ดังนั้นวันที่ ๒ กันยายนหรือวันชาตินั้นมีความหมายอันยิ่งใหญ่กว่าและชาวเวียดนามมีสิทธิภาคภูมิใจในความหมายนั้น ”
ผ่าระยะเวลา ๖๘ ปีที่ต้องต่อสู้และสร้างสรรค์ประเทศอย่างยากเข็ญ ชาวเวียดนามจึงตระหนักถึงคุณค่าของเอกราชและเสรีภาพยิ่งกว่าประชาชาติใดๆในโลก โดยประชาชนหลายล้านคนต้องสละชีวิตเพื่อเอกราชและความเป็นหนึ่งเดียวของประเทศ ตามคำประกาศของประธานโฮจิมินห์ ณ จัตุรัสบาดิ่ง ในฤดูใบไม้ร่วงปีค.ศ. ๑๙๔๕ ให้ทั่วโลกได้รับทราบว่า “ ประเทศเวียดนามมีสิทธิ์ได้รับเอกราชและเสรีภาพ ประชาชนเวียดนามทุกคนจักปกป้องเอกราชและเสรีภาพนั้นด้วยจิตใจ กำลัง ชีวิตและทรัพย์สินทุกอย่าง
การสร้างสรรค์ประเทศจากการถูกกดขี่ขุดรีดเยี่ยงทาสและผ่านสงครามต่อต้านศัตรูผู้รุกราน ประชาชนเวียดนามต้องเผชิญกับความยากลำบากและความท้าทายอย่างหนักยิ่งกว่าชาติอื่นใดในโลก ด้วยเหตุนี้เอง ผลสำเร็จของประเทศใน ๖๘ ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะผลสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศในกว่า ๒๗ ปีที่ผ่านมาถือเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม โดยนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่เวียดนามได้หลุดพ้นจากการเป็นประเทศยากจน อัตราครอบครัวยากจนลดลงอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งยังเดินหน้าในการปฏิบัติเป้าหมายแห่งสหัสวรรษของสหประชาชาติ ท่านมาเรีย ฟาติมา เลขาธิการสมาคมมิตรภาพและสามัคคีโมแซมบิกเห็นว่า “ ในอดีต เวียดนามประสบความยากลำบากมากมาย แต่ในปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น สำหรับดิฉันนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นในเวียดนามและมาตรการของเวียดนามเพื่อประสบความสำเร็จในยุคเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศนั้นเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม ”
ความสำเร็จของเวียดนามยังเห็นได้ชัดจากสถานะทางการเมืองของเวียดนามบนเวทีโลกได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ โดยปัจจุบันเวียดนามได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับ ๑๘๐ ประเทศ มีความสัมพันธ์ทางการค้ากับ ๒๓๐ ประเทศและดินแดน เวียดนามยังเข้าเป็นสมาชิกขององค์การภูมิภาคและระหว่างประเทศกว่า ๗๐ องค์กร ท่านชาดิ ซาลามา อัลตูมาอีซี เอกอัครราชทูตปาเลสไตน์ประจำเวียดนามยืนยันว่า “ เวียดนามพยายามพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยภายในปี ๒๐๒๐ ผมเชื่อว่า ผลสำเร็จในหลายปีที่ผ่านมาจะเป็นพื้นฐานที่มั่นคงให้แก่การพัฒนาและความสำเร็จของเวียดนาม และเวียดนามจะกลายเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่พัฒนาภายในปี ๒๐๒๐อย่างแน่นนอน พวกเราติดตามการพัฒนาของเวียดนามอย่างใกล้ชิดและถือผลสำเร็จของเวียดนามเป็นผลสำเร็จของประเทศตน ปาเลสไตน์สนับสนุนและสามัคคีกับประชาชนเวียดนามในภารกิจการต่อสู้เพื่อความชอบธรรม ”
การฉลองวันชาติ ๒ กันยายนปีนี้ซึ่งเป็นวันที่ประเทศได้รับเอกราชและเสรีภาพในขณะที่สถานการณ์ภายในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะการพิพาทอธิปไตยทางดินแดนนั้นยิ่งมีความหมายอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ๖๘ ปีได้ผ่านพ้นไปแต่คำว่า วันเอกราชยังคงสถิตอยู่ในใจของชาวเวียดนามรุ่นแล้วรุ่นเล่า และวันที่ ๒ กันยายนปีค.ศ. ๑๙๔๕ ยังเป็นความภาคภูมิใจและเป็นแรงผลักดันให้ชาวเวียดนามทุกคนพยายามฟันฝ่าความยากลำบากเพื่อเป้าหมายสังคมที่มีประชาธิปไตย ยุติธรรมและอารยธรรม ./.
Huyen-VOV5