(VOVWORLD) -ในกรุงฮานอยมีสิ่งปลูกสร้างสถาปัตยกรรมยุโรป โดยเฉพาะสถาปัตยกรรมฝรั่งเศสได้รับการก่อสร้างเมื่อ 100 ปีก่อนหลายแห่งด้วยฝีมือของช่างก่อสร้างในท้องถิ่น โดยกิจการเหล่านี้ได้กลายเป็นเอกลักษณ์วัฒนธรรมของเวียดนาม เป็นการเชื่อมโยงระหว่างอดีตกับอนาคตของตัวเมืองที่คึกคักแต่ยังคงมีความเงียบสงบ
 โรงละครใหญ่ฮานอย ที่ได้รับการก่อสร้างเมื่อปี 1901 -1911 ตามการออกแบบของโรงละคร Opera Garnier ในกรุงปารีส (Photo:vovgiaothong.vn) |
“สำหรับผม ฮานอยสวยที่สุดในช่วงเช้าตรู่ ผมเห็นว่า บ้านโบราณมีสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยหลังคากระเบื้องและสีผนังหนังที่เก่าแก่ ผู้คนออกกำลังกายและรู้สึกถึงความเงียบสงบของถนน นี่เป็นเอกลักษณ์ของกรุงฮานอย”
นี่คือความคิดเห็นของนาย ฝ่ามหว่างเชี้ยน ชาวฮานอยคนหนึ่ง สำหรับเขา บ้านสีเหลืองสถาปัตยกรรมฝรั่งเศสในกรุงฮานอยมีความงามที่โดดเด่นที่สะท้อนความเงียบสงบและความเก่าแก่ของกรุงฮานอยเก่า
กรุงฮานอยมีย่านโบราณ 36 สายและย่านเก่าหรือมีอีกชื่อคือ ย่านฝรั่งเศสที่ยังคงมีกิจการที่เป็นเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมกรุงฮานอย เมื่อกว่า 100 ปีก่อน สถาปัตยกรรมตะวันตก รวมทั้งสถาปัตยกรรมฝรั่งเศส สถาปัตยกรรมแบบอินโดจีนได้ปรากฎขึ้นในกรุงฮานอยโดยผ่านฝีมือของช่างก่อสร้างในท้องถิ่น ซึ่งกิจการเหล่านี้มีโครงสร้างและขนาดตามมาตรฐานฝรั่งเศส ส่วนประตูเหล็ก กุญแจประตู มือจับประตูมีสไตล์ตะวันตก การตกแต่งบ้านมีเอกลักษณ์วัฒนธรรมของท้องถิ่นผสานกับสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์เหงียน บ้านหลายหลังติดป้ายชื่อเป็นภาษาฮั่นนมและภาษาเวียดนาม เช่น “ยาบ๋าว” “จูงฮวี”และ “ลองฮึง” ดังนั้น สถาปัตยกรรมฝรั่งเศสในกรุงฮานอยมีเอกลักษณ์เฉพาะ และแม้ได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงต่างๆของยุคสมัยแต่สถาปัตยกรรมเหล่านี้ยังคงได้รับการเสริมสร้าง มีส่วนร่วมสร้างภาพลักษณ์ของกรุงฮานอยตัวเมืองที่ทันสมัย
บ้านสไตล์ฝรั่งเศสได้สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ศิลปินต่างๆ รวมทั้งจิตรกร บุ่ยกวางเคียม ที่เกิดในฮานอย ซึ่งจิตรกร บุ่ยกวางเคียม ได้วาดภาพบ้านสไตล์ฝรั่งเศสในชีวิตสมัยใหม่ เมื่อปี 2018 ผลงานแกะสลักไม้ของจิตรกร บุ่ยกวางเคียม ได้รับรางวัลในงานนิทรรศการกรุงฮานอย ซึ่งภาพเหล่านี้สื่อถึงความงามของบ้านที่มีสถาปัตยกรรมเก่าที่ถูกใช้เป็นร้านขายอะไหล่รถมอเตอร์ไซค์ จิตรกร บุ่ยกวางเคียม มีแผนการวิจัย และสร้างผลงานเกี่ยวกับชีวิตของชาวฮานอยในบ้านโบราณต่างๆ จิตรกร บุ่ยกวางเคียม ได้เผยว่า
“ถ้าหากฮานอยไม่มีย่านถนนโบราณ ศิลปินต่างๆจะไม่มีแรงบันดาลใจในการสร้างผลงาน ถ้าหากจิตรกร บุ่ยซวนฟ้าย ไม่มีผลงานเกี่ยวกับความงามและคุณค่านี้ แน่นอนว่า ทุกคนจะลืม ส่วนบ้านโบราณที่นักดนตรี จิ่งกงเซิน กล่าวถึงในเพลง “ Nhớ mùa thu Hà Nội” หรือ “คิดถึงฤดูใบไม้ร่วงในกรุงฮานอย” เพลง “Em ơi Hà Nội phố” หรือ “ถนนในกรุงฮานอย”ของนักดนตรี ฟู้กวางสร้างอารมณ์ความรู้สึกให้แก่ผู้ฟังเป็นอย่างมาก ซึ่งความงามของกรุงฮานอยแตกต่างกับตัวเมืองอื่นๆ”
 วิลล่าสไตล์ฝรั่งเศสโบราณของแพทย์ชาวฝรั่งเศส เลขที่ 49 ถนน เจิ่นฮึงด๋าว (Photo:vovgiaothong.vn) |
ภายหลัง 100 ปีที่คงอยู่ สถาปัตยกรรมฝรั่งเศสหลายแห่งได้เปิดให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและเรียนรู้เกี่ยวกับสถาปัตยกรรมและชีวิตของชาวฮานอยในอดีต อย่างเช่นโรงละครใหญ่ฮานอย ที่ได้รับการก่อสร้างเมื่อปี 1901 -1911 ตามการออกแบบของโรงละคร Opera Garnier ในกรุงปารีส โรงละครใหญ่ฮานอยเป็นหนึ่งในโรงละครใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ซึ่งเป็นสถานที่ที่จัดกิจกรรมที่สำคัญและรายการแสดงศิลปะต่างๆของกรุงฮานอย
ในขณะเดียวกันยังมีวิลล่าหลายแห่งได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์เพื่อกลายเป็นจุดนัดพบด้านวัฒนธรรม เป็นสถานที่ประชาชนสามารถแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม รวมทั้งแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างเวียดนามกับฝรั่งเศส อย่างเช่นวิลล่าสไตล์ฝรั่งเศสโบราณของแพทย์ชาวฝรั่งเศส เลขที่ 49 ถนน เจิ่นฮึงด๋าว นาง Emma Reix สถาปนิกชาวฝรั่งเศส
“วิลล่าในกรุงฮานอยได้รับการก่อสร้างเหมือนบ้านในเขตชนบทของฝรั่งเศส นี่ไม่ใช่รูปแบบบ้านในตัวเมือง นี่เป็นบ้านสวนหรือบ้านพักไตล์รีสอร์ท นอกจากนี้ วิลล่าในเขตต่างๆของฝรั่งเศสจะใช้วัสดุก่อสร้างในท้องถิ่นและมีสถาปัตยกรรมของเขตนั้น ส่วนวิลล่าในกรุงฮานอยส่วนใหญ่ได้รับการก่อสร้างด้วยหิน”
ท่ามกลางถนนที่คึกคักของกรุงฮานอย บ้านโบราณ วิลล่าหรือสถาปัตยกรรมฝรั่งเศสที่โดดเด่นหลายแห่ง ได้ชวนให้ชาวฮานอยอย้อนเวลากลับไปเพื่อศึกษาวิถีชีวิตของฮานอยในอดีตอันเป็นการเพิ่มพูนความรักเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมนี้มากขึ้น.