การประชุมสุดยอดจี 7 ไม่สามารถลดความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับบรรดาประเทศสมาชิกได้

(VOVWORLD) -การประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ หรือจี 7 ปีนี้ได้ปิดประชุมแล้วเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ณ รัฐอัลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา  โดยไม่สามารถออกแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับประเด็นใหญ่และการที่ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกจากการประชุมก่อนกำหนด ได้ทำให้การประชุมสุดยอดจี 7 ไม่บรรลุเป้าหมายใหญ่ที่สุดคือลดความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับประเทศสมาชิกที่เหลือของกลุ่มฯ

การประชุมสุดยอดจี 7 ไม่สามารถลดความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับบรรดาประเทศสมาชิกได้ - ảnh 1ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกจากการประชุมสุดยอดจี 7 ก่อนกำหนด (Photo:REUTERS/Kevin Lamarque)

ภายหลังประชุมมาเป็นเวลา 3 วัน การประชุมสุดยอดกลุ่มจี 7 ได้เสร็จสิ้นลง โดยไม่สามารถออกแถลงการณ์ร่วม ซึ่งมีเพียงการประกาศเกี่ยวกับบางด้านเท่านั้น

ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับประเทศสมาชิกในจี 7

การที่อิสราเอลถล่มโจมตีอิหร่านเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน จนก่อให้เกิดการปะทะระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านก่อนการประชุมสุดยอดจี 7 ณ ประเทศแคนาดาได้ส่งผลทำให้หลายประเด็นที่จะหยิบยกขึ้นมาหารือในการประชุมที่ประเทศเจ้าภาพแคนาดาได้กำหนดก่อนหน้านั้นมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งผลกระทบที่ใหญ่ที่สุดของวิกฤตในภูมิภาคตะวันออกกลางต่อการประชุมสุดยอดจี 7 คือการที่ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ต้องออกจากการประชุมก่อนกำหนดเพื่อกลับกรุงวอชิงตัน หารือเกี่ยวกับมาตรการแก้ไขการปะทะนี้ นอกจากนี้ การปะทะระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านยังสะท้อนถึงความขัดแย้งใหญ่ระหว่างสหรัฐกับประเทศยุโรปในกลุ่มจี 7 โดยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ยืนหยัดวิธีการเข้าถึงที่แข็งกร้าวต่อปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่าน  ส่วนบรรดาประเทศยุโรปกลับเน้นมาตรการทางการทูตและการสนทนา ตัวอย่างที่เด่นชัดที่สุดคือการที่นาย โดนัลด์ ทรัมป์ ตำหนิประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง ที่แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการที่สหรัฐยื่นข้อเสนอหยุดยิงต่ออิหร่านและบรรดาประเทศยุโรปพร้อมฟื้นฟูการเจรจากับอิหร่านในกรอบข้อตกลง P5+1 ที่ได้ลงนามเมื่อปี 2015

อีกประเด็นที่ประเทศเจ้าภาพแคนาดาและประเทศยุโรปในกลุ่มจี 7 ซึ่งประกอบด้วย เยอรมนี ฝรั่งเศส อังกฤษและอิตาลี ให้ความสำคัญคือโน้มน้าวให้สหรัฐเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียเนื่องจากการปะทะระหว่างรัสเซียกับยูเครนแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ตำหนิการที่กลุ่มจี 7 ขับรัสเซียออกจากกลุ่มจี 8 เมื่อปี 2014 โดยเห็นว่า นี่เป็นความผิดพลาดที่นำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดและการเผชิญหน้าระหว่างรัสเซียกับฝ่ายตะวันตกในปัจจุบัน นาย โดนัลด์ ทรัมป์ ก็ไม่พบปะกับนาย โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ซึ่งได้รับเชิญเข้าร่วมการประชุมและก็มีความประสงค์พบกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อเรียกร้องการสนับสนุนของสหรัฐที่มีสัญญาณจะลดลง กลุ่มจี 7 ไม่สามารถออกแถลงการณ์ร่วมที่เกี่ยวข้องถึงการปะทะระหว่างรัสเซียกับยูเครนเนื่องจากการคัดค้านของสหรัฐ แคนาดาและประเทศพันธมิตรต่างๆได้ประกาศคำสั่งคว่ำบาตรใหม่ต่อรัสเซียและประกาศให้ความช่วยเหลือยูเครนต่อไปแต่ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ประกาศไม่สนับสนุนเนื่องจากเห็นว่า นี่ไม่ใช่วิธีการเข้าถึงของสหรัฐ

การตัดสินใจออกจากการประชุมสุดยอดจี 7 เร็วกว่ากำหนดของนาย โดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้แผนการของผู้นำสหภาพยุโรปและญี่ปุ่นเกี่ยวกับการสนทนากับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์  เกี่ยวกับนโยบายด้านภาษีและการค้าของสหรัฐไม่สามารถปฏิบัติได้ ประธานาธิบดีสหรัฐมีเวลาเพียงแค่ร่วมกับนายกรัฐมนตรีอังกฤษประกาศข้อตกลงการค้าทวิภาคีที่ได้เห็นพ้องก่อนหน้านั้นเท่านั้นและ  ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ยังต้องส่งคำขาดต่ออียูเกี่ยวกับปัญหาภาษีในระหว่างการเดินทางกลับประเทศ        

การประชุมสุดยอดจี 7 ไม่สามารถลดความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับบรรดาประเทศสมาชิกได้ - ảnh 2นาง จอร์เจีย เมโลนี  นายกรัฐมนตรีอิตาลี (Photo:REUTERS/Amber Bracken)

ผลงานที่น่าสนใจ

ถึงแม้ไม่สามารถออกแถลงการณ์ร่วมแต่การประชุมสุดยอดจี 7 ปีนี้ได้ออกการประกาศเกี่ยวกับบางด้าน สิ่งที่น่าสนใจคือการประกาศเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งถือเป็นการประกาศที่ละเอียดที่สุดของบรรดาผู้นำจี 7 เกี่ยวกับประเด็นนี้ ซึ่งการประกาศนี้สร้างความหวังเกี่ยวกับวิธีการเข้าถึง โดยถือมนุษย์เป็นศูนย์กลางเพื่อประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าเพื่อส่งเสริมความเจริญรุ่งเรือง นำผลประโยชน์มาให้แก่สังคม แก้ไขความท้าทายที่เร่งด่วนของโลก โดยเฉพาะส่งเสริมประสิทธิภาพเศรษฐกิจและการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งกลุ่มจี 7 ยังเห็นพ้องเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ร่วมเกี่ยวกับเทคโนโลยีควอนตัมที่เพิ่มเกิดใหม่ คำมั่นที่จะส่งเสริมการลงทุนภาครัฐและภาคเอกชนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควอนตัม นอกจากนี้ นับเป็นครั้งแรกที่กลุ่ม จี 7 ยังได้กล่าวถึงประเด็นที่เป็นความวิตกกังวลของบางประเทศสมาชิก นาง จอร์เจีย เมโลนี  นายกรัฐมนตรีอิตาลีได้เผยว่า 

“หลายประเด็นที่ได้รับการหยิบยกขึ้นมาหารือในการประชุมสุดยอดจี 7 ครั้งนี้ เช่น การลี้ภัย ซึ่งเป็นหัวข้อที่ถูกหยิบยกขึ้นมาในการประชุมจี 7 เป็นครั้งแรกและมีการออกแถลงการณ์ร่วมในปีนี้ เรื่องของปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ซึ่งเป็นปัญหาที่สำคัญในปัจจุบันและหัวข้อเกี่ยวกับแร่ธาตุที่จำเป็น”

การประชุมสุดยอดจี 7 ไม่สามารถลดความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับบรรดาประเทศสมาชิกได้ - ảnh 3นายกรัฐมนตรีอินเดียได้เข้าร่วมการประชุมนี้และร่วมกับนายกรัฐมนตรีแคนาดาให้คำมั่นที่จะปรับความสัมพันธ์ทวิภาคีให้เป็นปกติ (Photo:REUTERS/Amber Bracken)

สำหรับปัญหาสิ่งแวดล้อม ข้อตกลงที่มีชื่อว่า “กฎบัตรเกี่ยวกับไฟป่า Kananaskis” ที่กำหนดขั้นตอนที่บรรดาประเทศสมาชิกจี 7 และ 5 ประเทศแขกรับเชิญได้แก่ออสเตรเลีย อินเดีย เม็กซิโก สาธารณรัฐเกาหลีและแอฟริกาใต้จะปฏิบัติเพื่อป้องกันและต่อต้านเหตุไฟป่า ความร่วมมือในการวิจัยและฟื้นฟูชุมชน นอกจากนี้ บรรดาผู้นำจี 7 ยังลงนามในคำมั่นแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ โดยชี้ชัดว่า กลุ่มจี 7 จะพิจารณาความเป็นไปได้ในการปฏิบัติมาตรการคว่ำบาตรที่มุ่งเป้าไปยังอาชญากรรมค้ามนุษย์

อีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจนอกรอบการประชุมสุดยอดจี 7 คือการที่แคนาดาและอินเดียยุติความตึงเครียดทางการทูตนับตั้งปี 2023 โดยนายกรัฐมนตรีอินเดียได้เข้าร่วมการประชุมนี้และร่วมกับนายกรัฐมนตรีแคนาดาให้คำมั่นที่จะปรับความสัมพันธ์ทวิภาคีให้เป็นปกติ.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด