ความหวังใหม่สำหรับมาตรการ 2 รัฐอยู่ร่วมกันอย่างสันติในตะวันออกกลาง

(VOVWORLD) - ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลายประเทศทั่วโลกได้ให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์อย่างเป็นทางการ ซึ่งได้เปิดความคาดหวังในการฟื้นฟูมาตรการอิสราเอลและปาเลสไตน์อยู่ร่วมกันอย่างสันติ และอาจสร้างแรงกดดันระหว่างประเทศมากพอเพื่อยุติการปะทะในฉนวนกาซาได้
ความหวังใหม่สำหรับมาตรการ 2 รัฐอยู่ร่วมกันอย่างสันติในตะวันออกกลาง - ảnh 1ชาวปาเลสไตน์อพยพลงใต้หลังกองกำลังอิสราเอลสั่งให้ชาวเมืองกาซาอพยพ เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2025 (REUTERS/Dawoud Abu Alkas)

    

เมื่อวันที่ 22 กันยายน ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง ได้กล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐว่า ฝรั่งเศสให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์อย่างเป็นทางการ ซึ่งทำให้ฝรั่งเศสกลายเป็นประเทศตะวันตกล่าสุดที่ให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์ ต่อจากแคนาดา อังกฤษ เบลเยียม ออสเตรเลียและโปรตุเกส

ก้าวเดินครั้งประวัติศาสตร์

การตัดสินใจครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศตะวันตกซึ่งเป็นพันธมิตรที่ยาวนานของอิสราเอลถือเป็นจุดเปลี่ยนทางการทูตที่สำคัญสำหรับกระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลางที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลาหลายทศวรรษและสถานการณ์การปะทะในฉนวนกาซาปัจจุบัน ก่อนหน้านั้น แคนาดาและอังกฤษได้เป็นประเทศแรกๆในกลุ่ม G7 ที่รับรองรัฐปาเลสไตน์ ถึงแม้ถูกคัดค้านจากสหรัฐ ที่น่าสังเกตคือ การตัดสินใจของอังกฤษในการรับรองรัฐปาเลสไตน์มีขึ้นภายหลังการเยือนอังกฤษของประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ในระหว่างวันที่ 17-19 กันยายน ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า รัฐบาลของนายกรัฐมนตรี เคียร์ สตาร์เมอร์ ไม่ย่อท้อจากแรงกดดันของวอชิงตัน โดยนาง อีเวตต์ คูเปอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษได้อธิบายว่า การรับรองรัฐปาเลสไตน์ไม่เพียงแต่เป็นพันธะทางศีลธรรมเท่านั้น หากยังเป็นความพยายามทางการทูตเพื่อรักษาความหวังระยะยาวสำหรับมาตรการอิสราเอลและปาเลสไตน์อยู่ร่วมกันอย่างสันติ เช่นเดียวกับความเห็นนี้ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง ยืนยันว่า ถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายจะต้องมองสถานการณ์ในตะวันออกกลางอย่างเป็นจริง และยอมรับศักดิ์ศรีและความชอบธรรมของกันเพื่อยุติการปะทะที่ไม่มีวันสิ้นสุด ประธานาธิบดีฝรั่งเศสยังเสนอให้ส่งกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติไปยังฉนวนกาซาเพื่อรักษาเสถียรภาพและสันติภาพที่ยั่งยืนในดินแดนแห่งนี้

นาย วูล์ฟ-คริสเตียน เพส ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับความขัดแย้งทางอาวุธจากสถาบันนานาชาติเพื่อการศึกษากลยุทธ์หรือ IISS ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษแสดงความเห็นว่า

“เป้าหมายของประเทศตะวันตกบางประเทศที่ให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์คือการมุ่งสู่มาตรการสองรัฐอยู่ร่วมกันอย่างสันติที่ตกลงกันไว้ในข้อตกลงออสโลเมื่อกว่า 30 ปีก่อน แต่กลับมีความคืบหน้าเพียงเล็กน้อยในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งจุดมุ่งหมายนี้ แม้จะมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ แต่ก็จะสร้างแรงผลักดันใหม่ให้แก่กระบวนการที่นำไปสู่มาตรการสองรัฐอยู่ร่วมกันอย่างสันติ”

ในขณะเดียวกัน เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส กล่าวว่า สิ่งสำคัญในสภาวการณ์ความมั่นคงในปัจจุบันในตะวันออกกลางก็คือ ฝ่ายต่างๆ มีทางเลือกที่ยั่งยืนในระยะยาวน้อยมากสำหรับมาตรการอิสราเอลและปาเลสไตน์อยู่ร่วมกันอย่างสันติ

ความหวังใหม่สำหรับมาตรการ 2 รัฐอยู่ร่วมกันอย่างสันติในตะวันออกกลาง - ảnh 2นาย อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (REUTERS/Mike Segar)

ไม่ใช่เรื่องง่าย

การที่บรรดาประเทศตะวันตกผลักดันการรับรองรัฐปาเลสไตน์ได้รับการสนับสนุนจากหลายประเทศที่เข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ โดยนาย ไฟซาล บิน ฟาร์ฮาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศซาอุดิอาระเบียได้เรียกร้องให้ทุกประเทศปฏิบัติตาม  ในขณะเดียวกัน นาง อันนาเลนา แบร์บอค ประธานสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่ 80 และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนีได้ยืนยันว่า การที่ 142 ประเทศสมาชิกสหประชาชาติลงคะแนนอนุมัติแถลงการณ์นิวยอร์กเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาปาเลสไตน์ด้วยสันติวิธีและการปฏิบัติมาตรการ 2 รัฐอยู่ร่วมกันอย่างสันติเมื่อวันที่ 22 กันยายนเป็นการส่งสารอย่างเข้มแข็งว่า ประชาคมระหว่างประเทศส่วนใหญ่ต้องการยุติการปะทะในฉนวนกาซาโดยทันที พร้อมทั้งมอบสิทธิในการมีรัฐเต็มรูปแบบให้แก่ประชาชนปาเลสไตน์ ประธานาธิบดีปาเลสไตน์ มาห์มูด อับบาส ยังกล่าวว่า การเคลื่อนไหวทางการทูตที่สนับสนุนปาเลสไตน์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเป็นการเรียกร้องให้สหประชาชาติรับปาเลสไตน์เป็นสมาชิกเต็มรูปแบบ

แต่อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้สังเกตการณ์ประเมินว่า นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับปาเลสไตน์ โดยผู้เชี่ยวชาญ วิคเตอร์ เจ. วิลลี ซีอีโอสถาบันวิจัยตะวันออกกลางของสวิสเซอร์แลนด์หรือ MEIS กล่าวว่า ท่ามกลางกระแสประเทศตะวันตกให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา บางประเทศดำเนินการเพื่อคุณธรรมและอุดมการณ์ ในขณะที่บางประเทศรับรองเนื่องจากถูกแรงกดดันภายในประเทศ แต่ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดอยู่ที่ว่า ประเทศเหล่านี้จะดำเนินการอย่างไรต่อไปเพื่อปกป้องสิทธิของรัฐปาเลสไตน์ โดยเฉพาะในกรณีที่เกิดความขัดแย้งด้านผลประโยชน์กับสหรัฐ ซึ่งเป็นพันธมิตรอันดับ 1 ของอิสราเอล ยังคงคัดค้านการรับรองรัฐปาเลสไตน์ โดยในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 22 กันยายน หลังจากที่ประเทศตะวันตกบางประเทศรับรองรัฐปาเลสไตน์ ทำเนียบขาวประกาศว่า ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ เตือนว่า การรับรองรัฐปาเลสไตน์โดยพันธมิตรสำคัญของสหรัฐถือเป็นการอำนวยความสะดวกให้กลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอล ดังนั้น การที่สหประชาชาติรับปาเลสไตน์เป็นสมาชิกเต็มรูปแบบจึงยังคงเป็นเรื่องยาก

ความกังวลหลักของประเทศตะวันตกที่ประกาศรับรองรัฐปาเลสไตน์คือคำเตือนการตอบโต้จากอิสราเอล โดยในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อิสราเอลหลายคนได้ขู่ว่า จะผนวกเขตเวสต์แบงก์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ภายใต้การควบคุมของปาเลสไตน์ ซึ่งอาจทำให้วิกฤตในตะวันออกกลางเลวร้ายลง.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด