ผลักดันความร่วมมือเศรษฐกิจทวิภาคีกับประเทศเพื่อนมิตรเก่าแก่

(VOVworld) – ในระหว่างวันที่ 3 ถึงวันที่ 6 มิถุนายน ท่านเหงียนเติ๊นหยุงนายกรัฐมนตรีได้เยือนประเทศโปรตุเกสและสาธารณรัฐบัลแกเรียอย่างเป็นทางการ ทั้งโปรตุเกสและบัลแกเรียต่างเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปและมีความสัมพันธ์ที่ดีงามกับเวียดนามอย่างยาวนาน ดังนั้นการเยือนสองประเทศดังกล่าวในครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีเวียดนามถือเป็นโอกาสให้เวียดนามผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมือในหลายด้าน โดยเฉพาะความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับสองประเทศที่มีศักยภาพนี้

(VOVworld) – ในระหว่างวันที่ 3 ถึงวันที่ 6 มิถุนายน ท่านเหงียนเติ๊นหยุงนายกรัฐมนตรีได้เยือนประเทศโปรตุเกสและสาธารณรัฐบัลแกเรียอย่างเป็นทางการ ทั้งโปรตุเกสและบัลแกเรียต่างเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปและมีความสัมพันธ์ที่ดีงามกับเวียดนามอย่างยาวนาน ดังนั้นการเยือนสองประเทศดังกล่าวในครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีเวียดนามถือเป็นโอกาสให้เวียดนามผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมือในหลายด้าน โดยเฉพาะความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับสองประเทศที่มีศักยภาพนี้

ผลักดันความร่วมมือเศรษฐกิจทวิภาคีกับประเทศเพื่อนมิตรเก่าแก่ - ảnh 1
ให้ความสำคัญต่อการขยายความร่วมมือกับโปรตุเกส
การเยือนอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีเวียดนามครั้งนี้ประจวบกับช่วงเวลาที่เวียดนามฉลองครบรอบ 65 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับบัลแกเรียและฉลอง 40 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับโปรตุเกส ในฐานะเป็นประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรป ทั้งโปรตุเกสและบัลแกเรียต่างเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจพัฒนา โดยเฉพาะในด้านที่คล้ายคลึงกับเศรษฐกิจเวียดนาม ยิ่งไปกว่านั้น จากการที่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะได้รับการก่อตั้งในปลายปีนี้ทำให้โปรตุเกสและบัลแกเรียมีความประสงค์ว่า เวียดนามจะเป็นประตุช่วยให้สองประเทศนี้ขยายความร่วมมือกับภูมิภาคอาเซียนที่กว้างใหญ่และมีศักยภาพมากมาย
ให้ความสำคัญต่อการขยายความร่วมมือกับโปรตุเกส
นายเหงียนหงอกเซิน เอกอัคราชทูตฝรั่งเศสซึ่งมีถิ่นพำนักที่โปรตุเกสเผยว่า การเยือนโปรตุเกสครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีเหงียนเติ๊นหยุงมีความหมายสำคัญพิเศษต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเพราะนี่คือการเยือนครั้งแรกของนายกรัฐมนตรีเวียดนามและประจวบกับโอกาสที่ทั้งสองฝ่ายฉลองครบรอบ 40 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต แต่อย่างไรก็ตาม แม้จะสถาปนาความสัมพันธ์กันมาเป็นเวลา 40 ปีแต่จนถึงขณะนี้ ตามการประเมินของทั้งสองฝ่าย ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจยังไม่สูงมากนักและยังไม่ทัดเทียมกับศักยภาพที่มีอยู่ของแต่ละฝ่าย ดังนั้น ประชามติทั้งสองประเทศจังตั้งความหวังไว้สูงต่อการเยือนครั้งนี้ เอกอัครราชทูตเหงียนหงอกเซินเผยว่า “การเยือนโปรตุเกสของนายกรัฐมนตรีเหงียนเติ๊นหยุงจะเป็นนิมิตหมายแห่งการพัฒนาใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายจะลงนามเอกสารต่างๆเพื่อสร้างโอกาสใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ พร้อมทั้งช่วยให้เพื่อนมิตรชาวโปรตุเกสมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับเวียดนาม โดยเฉพาะในฟอรั่มของสถานประกอบการสองประเทศ คาดว่าจะมีสถานประกอบการเวียดนามเกือบ 100 แห่งเข้าร่วมพร้อมกับสถานประกอบการโปรตุเกสจำนวนมาก ทั้งสองฝ่ายจะมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับตลาดแต่ละฝ่าย ซึ่งจะช่วยผลักดันความร่วมมือในอนาคต”
ในกรอบการเยือน นอกจากการพบปะกับผู้นำโปรตุเกสและเป็นสักขีพยานในการลงนามเอกสารความร่วมมือระหว่างสองประเทศ เช่น ข้อตกลงการเลี่ยงการเก็บภาษีซ้ำซ้อน ข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศและข้อตกลงความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวแล้วนายกรัฐมนตรีเวียดนามและนายกรัฐมนตรีโปรตุเกสจะร่วมเป็นประธานฟอรั่มเศรษฐกิจทางทะเลปี 2015 ซึ่งคาดว่าจะมีผู้แทนจาก 50 ประเทศและองค์กรระหว่างประเทศเข้าร่วม รวมทั้งองค์กรที่สำคัญต่างๆ เช่น สหประชาชาติ องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาหรือโออีซีดี องค์การอาหารโลกหรือเอฟเอโอ ในการประเมินเกี่ยวกับความหมายของกิจกรรมนี้ เอกอัครราชทูตเหงียนหงอกเซินเผยว่า  “โปรตุเกสให้ความสำคัญต่อการเยือนของนายกรัฐมนตรีเวียดนามและบทบาทของเวียดนามจึงได้เชิญนายกรัฐมนตรีเวียดนามเป็นประธานร่วมในฟอรั่มเศรษฐกิจทางทะเล นี่คือโอกาสให้เวียดนามศึกษาความสนใจร่วมกันของประเทศต่างๆต่อปัญหามหาสมุทรและอาจเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในมหาสมุทรและการพัฒนาเศรษฐกิจทางทะเลในอนาคต”
ผลักดันความร่วมมือเศรษฐกิจทวิภาคีกับประเทศเพื่อนมิตรเก่าแก่ - ảnh 2
มุ่งสู่ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับบัลแกเรีย
มุ่งสู่ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับบัลแกเรีย
ต่อจากการเยือนประเทศโปรตุเกส ท่านเหงียนเติ๊นหยุงและคณะผู้แทนระดับสูงของรัฐบาลเวียดนามจะเดินทางไปเยือนประเทศบัลแกเรีย ซึ่งเป็น 1 ใน 10 ประเทศแรกที่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับเวียดนามในต้นปี 1950 บัลแกเรียได้ให้การช่วยเหลือเวียดนามทั้งทางวัตถุและจิตใจในภารกิจการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยประชาชาติและปกป้องประเทศ ในหลายปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างเวียดนามกับบัลแกเรียได้รับการขยายมากขึ้น จากเมื่อปี 2006 มูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่างสองประเทศบรรลุแค่ 18.5 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น แต่ในปี 2014 ตัวเลขดังกล่าวได้เพิ่มขึ้นเป็น 90 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวยังไม่ทัดเทียมกับศักยภาพของทั้งสองรประเทศ บัลแกเรียและเวียดนามกำลังพยายามยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคี โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจและการค้าให้ขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ผ่านรูปแบบความร่วมมือทางเศรษฐกิจใหม่ที่ได้รับการปฏิบัติตั้งแต่ปี 2014 นายเลดึ๊กลิว เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำบันแกเรียได้เผยว่า  “สิ่งใหม่ในการเยือนครั้งนี้คือ เพื่อปฏิบัติตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี ทั้งสองประเทศ รัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรี รวมทั้งหน่วยงานต่างๆของทั้งสองฝ่ายจะมีการพบปะโดยตรงเพื่อหารือเกี่ยวกับเนื้อหาความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมเพื่อยกระดับประสิทธิภาพโครงการร่วมมือ ส่งเสริมการลงทุนระหว่างสองประเทศ หารือมาตรการแก้ไขการกีดกันด้านการค้าในการส่งออกและนำเข้าสินค้าการเกษตรและสัตว์น้ำเข้าตลาดยุโรป พร้อมทั้งแสวงหาข้อมูลความร่วมมือและร่วมทุนที่มีความเป็นไปได้สูงในการปฏิบัติเพื่อให้สถานประกอบการทั้งสองประเทศทำการส่งเสริมในอนาคต”
ในฐานะเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ทั้งโปรตุเกสและบัลแกเรียต่างมีความสัมพันธ์ที่มีมาช้านานกับเวียดนาม ดังนั้นการเยือนสองประเทศนี้อย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีเวียดนามนามเหงียนเติ๊นหยุงก็เพื่อกระชับความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านานให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นและเป็นโอกาสให้เวียดนามผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจอย่างจริงจังเพื่อผลประโยชน์ของเวียดนาม รวมถึงประเทศสมาชิกของสหภาพเศรษฐกิจเอเชีย – ยุโรป โดยเฉพาะโปรตุเกสและบัลแกเรีย./.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด