ระยะใหม่ของความสัมพันธ์เวียดนาม-บราซิล

(VOVWORLD) - ตามคำเชิญของประธานประเทศ เลืองเกื่อง ประธานาธิบดีบราซิล ลูอิส อีนาซียู ลูลา ดา ซิลวา จะเดินทางมาเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่ 27 - 29 มีนาคม นี่เป็นการยืนยันถึงแนวทางที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนามในการให้ความสำคัญต่อมิตรภาพที่มีมาช้านานและความร่วมมือในหลายด้านกับบราซิลในความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์และความร่วมมือในทุกด้านกับลาตินอเมริกา ซึ่งจะช่วยกระชับและเปิดโอกาสความร่วมมือใหม่ ๆ มากมาย
ระยะใหม่ของความสัมพันธ์เวียดนาม-บราซิล - ảnh 1นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง และประธานาธิบดีบราซิล ลูอิส อีนาซียู ลูลา ดา ซิลวา (VNA)

นี่คือครั้งที่สองที่ประธานาธิบดีบราซิล ลูลา ดา ซิลวา มาเยือนเวียดนามนับตั้งแต่ปี 2008 โดยการเยือนเวียดนามเมื่อปี 2008 เน้นหารือเกี่ยวกับมิตรภาพและความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศ แต่การเยือนครั้งนี้มีขึ้นในสภาวการณ์ที่ความสัมพันธ์เวียดนาม – บราซิลได้รับการยกระดับเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2024

เวียดนามเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่มีความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับบราซิล ส่วนบราซิลเป็นประเทศแรกในภูมิภาคอเมริกาใต้ที่ยกระดับความสัมพันธ์กับเวียดนามเป็นความสัมพันธ์ยุทธศาสตร์

แปรความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ให้เป็นรูปธรรม

การเยือนเวียดนามของประธานาธิบดี ลูลา ดา ซิลวา เป็นโอกาสเพื่อให้ผู้นำของทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนและบรรลุความเห็นพ้องเกี่ยวกับการแปรเนื้อหาของความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์และคำมั่นทางการเมืองให้เป็นรูปธรรม สำหรับเวียดนาม การเยือนครั้งนี้ถือเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือกับประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุด มีบทบาทสำคัญและเป็นผู้นำในอเมริกาใต้  สามารถเพิ่มความหลากหลายเกี่ยวกับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ สร้างโอกาสในการพัฒนาอุตสาหกรรมและด้านที่สำคัญๆ มากขึ้น

การเยือนครั้งนี้สอดคล้องกับแนวทางการต่างประเทศของเวียดนาม มีส่วนร่วมแปรมติของที่ประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13 และโครงการ “การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับประเทศในลาตินอเมริกาในช่วงปี 2022-2026” ให้เป็นรูปธรรม ส่งเสริมการดำเนินการตามคำมั่นระหว่างประเทศและกระชับกรอบความร่วมมือใหม่ ๆ อีกทั้ง ยืนยันถึงความมุ่งมั่นของเวียดนามในการส่งเสริมความร่วมมือกับหุ้นส่วนสำคัญในลาตินอเมริกา โดยเฉพาะบราซิล

ในกรอบการเยือน ผู้นำของทั้งสองประเทศเน้นหารือเกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือในด้านที่มีศักยภาพ เช่น พลังงานหมุนเวียน อุตสาหกรรมการผลิตและการแปรรูป การเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เชื้อเพลิงชีวภาพ การศึกษาและฝึกอบรม และการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งสองฝ่ายจะหารือและเสนอมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า ขยายตลาดและผลักดันการลงทุนระหว่างทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะ คาดว่า กระทรวง หน่วยงาน ท้องถิ่นและสถานประกอบการของทั้งสองประเทศจะลงนามเอกสารความร่วมมือ สร้างกรอบทางนิตินัยที่สะดวกเพื่อส่งเสริมการดำเนินโครงการความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม ซึ่งนำผลประโยชน์ในระยะยาวมาให้แก่ทั้งสองฝ่าย เวียดนามยังตั้งความหวังว่า บราซิลจะรับรองกลไกเศรษฐกิจเชิงตลาดโดยเร็วและเร่งกระบวนการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีหรือ FTA ระหว่างเวียดนามกับตลาดร่วมอเมริกาใต้หรือ MERCOSUR ซึ่งเป็นก้าวกระโดดที่สำคัญในการขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนในอนาคต

การเยือนครั้งนี้ยังเปิดโอกาสให้ทั้งสองประเทศแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความร่วมมือในด้านอื่นๆ ที่มีศักยภาพ เช่น การท่องเที่ยว การบิน ท่าเรือและโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นด้านที่ทั้งสองประเทศต่างมีศักยภาพสูง แต่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ และการส่งเสริมความร่วมมือในด้านเหล่านี้จะมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีให้แข็งแกร่งมากขึ้น

ระยะใหม่ของความสัมพันธ์เวียดนาม-บราซิล - ảnh 2ประธานาธิบดีบราซิล ลูอิส อีนาซียู ลูลา ดา ซิลวา (Kyodo)

เปิดระยะความร่วมมือที่ยั่งยืน จริงจังและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ในโลกที่มีความผันผวนอย่างซับซ้อน มีความหลากหลายด้านโครงสร้างเครือข่าย และการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การที่เวียดนามและบราซิลร่วมมืออย่างใกล้ชิด แลกเปลี่ยนข้อมูล ร่วมมือในด้านความมั่นคงและกลาโหมนอกเหนือจากความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การใช้ประโยชน์จากศักยภาพและการสนับสนุนกันระหว่างสองเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มความหลากหลายของห่วงโซ่ของตลาดแรงงาน สินค้า อุตสาหกรรม การบริการ การผลิต การจัดสรรและการบริโภคระหว่างประเทศเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง

ด้วยกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศในปัจจุบัน ทั้งสองประเทศสามารถร่วมมือกันเพื่อส่งเสริมความคิดริเริ่มระดับโลกในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาและความท้าทายระดับโลก ร่วมมือเพื่อสร้างโลกแห่งสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาที่ยั่งยืน

ด้วยความไว้วางใจทางการเมืองในระดับสูง ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดและมีวิสัยทัศน์ในระยะยาว การเยือนเวียดนามครั้งนี้ของประธานาธิบดี ลูลา ดา ซิลวา จะเปิดระยะความร่วมมือใหม่แห่งการพัฒนาที่แข็งแกร่ง  ยั่งยืน จริงจังและมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้ง เปิดโอกาสใหม่ให้แก่เวียดนามและบราซิลและมีส่วนร่วมต่อการสร้างเสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองทั้งในระดับภูมิภาคและโลกอีกด้วย.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด