(VOVWORLD) - ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีเวียดนาม ฝ่ามมิงชิ้ง และภริยา นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ลอว์เรนซ์ หว่อง และภริยาจะเดินทางมาเยือนเวียดนามในระหว่างวันที่ 25-26 มีนาคม นี่เป็นการเยือนเวียดนามครั้งแรกของนาย ลอว์เรนซ์ หว่อง ในฐานะนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ โดยเฉพาะมีขึ้นหลังการเยือนสิงคโปร์ของเลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม ในระหว่างวันที่ 11-13 มีนาคมที่สร้างนิมิตหมายระหว่างสองประเทศเมื่อยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศขึ้นเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้าน ช่วยเปิดหน้าใหม่ด้วยวิสัยทัศน์ที่ยาวนานและรอบด้านมากขึ้น
นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ฝ่ามมิงชิ้ง และนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ลอว์เรนซ์ หว่อง (VGP)
|
การเยือนครั้งนี้จะเป็นนิมิตหมายสำคัญต่อไปในความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ เป็นโอกาสกระชับและปฏิบัติประเด็นต่างๆ ในกรอบความร่วมมือยุทธศาสตร์ทุกด้านที่เพิ่งได้รับการยกระดับระหว่างสองประเทศ
ตั้งใจผลักดันการปฏิบัติประเด็นต่างๆ ในความสัมพันธ์ร่วมมือ
การเยือนเวียดนามครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์จะมีขึ้นภายในเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์หลังจากการเยือนสิงคโปร์ของเลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ทวิภาคีที่กำลังพัฒนาอย่างดีงามและความตั้งใจกระชับของผู้นำระดับสูงของสองประเทศ สำหรับการเยือนเวียดนามครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ นาย เจิ่นเฟือกแอง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศสิงคโปร์ได้ยืนยันว่า
“ผู้นำทั้งสองประเทศจะหารือเกี่ยวกับประเด็นที่ได้ระบุในการเยือนสิงคโปร์ของเลขาธิการใหญ่ โตเลิม และช่วยปฏิบัติเนื้อหาในแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับการยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้าน ซึ่งจะมีความหมายและเอื้อประโยชน์มากมายต่อทั้งสองฝ่าย”
นาย เจิ่นเฟือกแอง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศสิงคโปร์ |
ถึงแม้การเยือนเวียดนามจะมีขึ้นในเวลาสั้นแต่เนื้อหาที่จะได้รับการหารือชัดเจนมากเพื่อปฏิบัติแถลงการณ์ร่วมฯ เช่น มอบเอกสารร่วมมือระหว่างสองประเทศ เปิดการก่อสร้างโครงการเขตนิคมอุตสาหกรรมเวียดนาม – สิงคโปร์แห่งที่ 18 หรือ VSIP ณ จังหวัดท้ายบิ่ง ซึ่งVSIP ในเวียดนามคือนิมิตหมายและเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงความสำเร็จในความร่วมมือทวิภาคีในด้านการลงทุนและประกอบธุรกิจ ในพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้าง VSIP 2 ในจังหวัดกว๋างหงายเมื่อวันที่ 12 มีนาคม นาย เหงวียนหว่าบิ่งห์ รองนายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ย้ำว่า “รัฐบาลเวียดนามขอยืนยันว่า เวียดนามธำรงบรรยากาศการลงทุน ผลักดันการปฏิรูประเบียบราชการและระบบกฎหมายเพื่อสร้างบรรยากาศการลงทุนที่เปิดกว้าง โปร่งใสและอำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการทั้งภายในและต่างประเทศ โดยเฉพาะสถานประกอบการสิงคโปร์ต่อไป เรามีความประสงค์ว่า นักลงทุนจะเดินพร้อมกับเวียดนามย่างเข้าสู่ศักราชแห่งความเจริญรุ่งเรือง เข้มแข็งและมั่งคั่ง”
ในยุคแห่งดิจิทัล วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมถือเป็นพลังขับเคลื่อนหลักเพื่อผลักดันการขยายตัว ประเทศเวียดนามมีแหล่งบุคลากรด้านเทคโนโลยีสารสนเทศจำนวนมาก ความร่วมมือกับสิงคโปร์จะสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่ทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ กรอบความร่วมมือหุ้นส่วนเศรษฐกิจแห่งสีเขียว – เศรษฐกิจดิจิทัลคือตัวอย่างแห่งความสำเร็จในความร่วมมือภายในภูมิภาคอาเซียน ดังนั้น การใช้จุดแข็งของสิงค์โปร์ในการให้บริการดิจิทัล เทคโนโลยีสะอาดบวกกับจุดแข็งของเวียดนามในด้านพลังงาน เทคโนโลยีสารสนเทศจะช่วยให้สองประเทศก้าวรุดหน้าบนเส้นทางแห่งการขยายตัวที่ยั่งยืนและยาวนานต่อไป
นาย เหงวียนหว่าบิ่งห์ รองนายกรัฐมนตรีเวียดนามกล่าวปราศรัยในพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้าง VSIP 2 ในจังหวัดกว๋างหงายเมื่อวันที่ 12 มีนาคม |
ธำรงรูปแบบที่เป็นตัวอย่างแห่งความร่วมมือทวิภาคีในสภาวการณ์ที่มีความท้าทายมากมาย
ในสภาวการณ์ที่โลกและภูมิภาคสร้างความท้าทายเป็นอย่างมากต่อทั้งเวียดนามและสิงคโปร์ โดยเฉพาะการแข่งขันระหว่างบรรดาประเทศมหาอำนาจ เวียดนามและสิงคโปร์ต้องประสานงานอย่างใกล้ชิดต่อไปเพื่อค้ำประกันแนวโน้มการพัฒนาอย่างดีงาม เอกอัครราชทูต เจิ่นเฟือกแอง เผยต่อไปว่า
“ในสภาวการณ์โลกและภูมิภาคปัจจุบัน การกระชับความร่วมมือทวิภาคีและพหุภาคีในกรอบอาเซียนถือเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก โดยเวียดนามและสิงคโปร์มีบทบาทเป็นฝ่ายรุกและเข้มแข็งในความพยายามกระชับความที่แสดงให้โลกเห็นว่า อาเซียนเป็นองค์กรที่สามัคคี มีความประสงค์ที่จะมีบทบาทเข้มแข็งและเป็นศูนย์กลางในการธำรงสันติภาพ เสถียรภาพและการพัฒนาของภูมิภาค”
เวียดนามและสิงคโปร์ได้จัดทำและดำเนินกลไกการพบปะทวิภาคีประจำปีระหว่างนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศ รวมทั้งกลไกการทาบทามความคิดเห็นทางการเมืองและการสนทนาระหว่างกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างมีเสียงพูดเดียวกันเกี่ยวกับปัญหาระดับภูมิภาคและโลก
ในตลอดกว่าครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ความสัมพันธ์มิตรภาพและความร่วมมือที่ดีงามระหว่างเวียดนามกับสิงคโปร์ได้ประสบผลที่น่ายินดีต่างๆ จากความต้องการในการพัฒนาในระยะใหม่ของแต่ละประเทศ ทั้งเวียดนามและสิงคโปร์ต่างตั้งใจกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านนี้ให้แน่นแฟ้นมากขึ้น ดังนั้น การเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีสิงค์โปร์ ลอว์เรนซ์ หว่อง จะเปิดหน้าใหม่ที่สดใสและเต็มไปด้วยศักยภาพในความร่วมมือระหว่างสองประเทศในเวลาที่จะถึง.