สร้างสภาพแวดล้อมทางไซเบอร์ที่ปลอดภัยและยั่งยืน

(VOVWORLD) - ในเวียดนาม การจัดทำและปรับปรุงกรอบทางนิตินัยเพื่อบริหารจัดการ และรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์คือความต้องการที่เร่งด่วนเพื่อมุ่งสร้างสภาพแวดล้อมทางดิจิทัลที่ปลอดภัย โปร่งใสและยั่งยืน  ซึ่งท่ามกลางกระแสโลกาภิวัตน์และการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลแบบไร้พรมแดนนั้น ควบคู่กับการปรับปรุงระบบกฎหมาย เวียดนามยังเดินหน้าขยายความร่วมมือระหว่างประเทศ มีส่วนร่วมจัดทำร่างหลักการระหว่างประเทศ ด้านไซเบอร์บนพื้นฐานของการให้ความเคารพอธิปไตยและไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น

ในยุคดิจิทัล โลกไซเบอร์ได้เปิดโอกาสและศักยภาพการพัฒนาที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ก็มีความเสี่ยงและความท้าทายข้ามพรมแดน ทำให้ความร่วมมือระหว่างประเทศด้านความมั่นคงทางไซเบอร์เป็นทั้งความต้องการของทุกประเทศและเป็นความรับผิดชอบของประชาคมโลกเพื่อค้ำประกันสันติภาพ เสถียรภาพและการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งสำหรับเวียดนาม จากแนวทางการต่างประเทศที่อิสระ พึ่งตนเอง สันติภาพ ความร่วมมือและการพัฒนา เวียดนามก็กำลังร่วมมือกับนานาประเทศเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมทางไซเบอร์ที่ปลอดภัย โปร่งใสและมีมนุษยธรรม

เวียดนามคือหุ้นส่วนที่น่าเชื่อถือและเดินหน้าในความร่วมมือด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ระหว่างประเทศ

จากการตระหนักถึงความสำคัญของความมั่นคงทางไซเบอร์ต่อการพัฒนาประเทศ เวียดนามได้ประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงทางไซเบอร์ปี 2018 ยุทธศาสตร์ความมั่นคงทางไซเบอร์ระดับชาติจนถึงปี 2025 วิสัยทัศน์จนถึงปี 2030 และแผนการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม

ส่วนในเวทีระหว่างประเทศ เวียดนามเดินหน้าเข้าร่วมและมีความรับผิดชอบในการปฏิบัติความคิดริเริ่มและกลไกความร่วมมือด้านความมั่นคงทางไซเบอร์อย่างเข้มแข็ง เป็นสมาชิกที่กระตือรือร้นขององค์กรและฟอรั่มระหว่างประเทศเกี่ยวกับความมั่นคงทางไซเบอร์ เช่น อาเซียน เอเปก สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ หรือ ITU และสหประชาชาติ อีกทั้งได้ลงนามและปฏิบัติข้อตกลงทวิภาคีกับหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ เช่น ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี สิงคโปร์ รัสเซีย สหรัฐและสหภาพยุโรปเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล อบรมแหล่งบุคลากร วิจัยเทคโนโลยีและประสานงานในการรับมือปัญหาทางไซเบอร์ นาย หวูยวีเหี่ยน รองเลขาธิการและปลัดสำนักงานสมาคมความมั่นคงทางไซเบอร์แห่งชาติได้เผยว่า

“เวียดนามได้เรียนรู้นโยบายของต่างประเทศเพื่อจัดทำและปรับปรุงระบบกฎหมายภายในประทศ เช่น รูปแบบการบริหารจัดการและประสานงานในการรับมือปัญหาและค้ำประกันความปลอดภัยทางไซเบอร์ การช่วยเหลือของรัฐในการระดมแหล่งพลังต่างๆทางสังคมในการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์”

เวียดนามได้ก่อตั้งศูนย์ตรวจสอบความปลอดภัยทางไซเบอร์แห่งชาติที่มีการเชื่อมโยง แลกเปลี่ยนข้อมูลและเตือนภัยร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศ เป็นเจ้าภาพจัดการฝึกซ้อมการรักษาความมั่นคงทางไซเบอร์ในอาเซียนหลายครั้งเพื่อมีส่วนร่วมยกระดับศักยภาพการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้แก่ประเทศต่างๆในภูมิภาค อันเป็นการแสดงให้เห็นว่า เวียดนามคือหุ้นส่วนที่น่าเชื่อถือและเป็นสมาชิกที่มีความรับผิดชอบของประชาคมโลกในการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ของโลก

มีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งในการจัดทำกรอบทางกฎหมายระหว่างประเทศ

นอกจากแลกเปลี่ยนด้านเทคนิคและประสานงานในการรับมือปัญหา เวียดนามยังมีส่วนร่วมที่เข้มแข็งในการจัดทำกรอบทางกฎหมายระหว่างประเทศ โดยยึดหลักในการให้ความเคารพอธิปไตย ไม่แทรกแซงกิจการภายใน ใช้งานอินเตอร์เน็ตเพื่อเป้าหมายสันติภาพและพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งทัศนะนี้ก็สอดคล้องกับกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายสากล

ทั้งนี้ ด้วยทัศนะที่เสมอต้นเสมอปลายเกี่ยวกับการต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่เข้าร่วมและมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งในการประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับการจัดทำอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ โดยทัศนะและส่วนร่วมที่เข้มแข็งของเวียดนามในตลอดเกือบ 5 ปีที่ผ่านมาได้รับการชื่นชมจากสหประชาชาติ และในมติของสมัชชาใหญ่สหประชาชาติเมื่อเดือนธันวาคมปี 2024 ได้ระบุเลือกกรุงฮานอยเป็นสถานที่จัดพิธีลงนามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ในปลายเดือนตุลาคมนี้ พันตำรวจโท เจี่ยวแหม่งหุ่ง รองอธิบดีกรมความมั่นคงทางไซเบอร์ การป้องกันและต่อต้านอาชญากรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงได้ยืนยันว่า

นี่เป็นครั้งแรกที่กรุงฮานอยถูกระบุในเอกสารกฎหมายของสหประชาชาติเกี่ยวกับด้านที่ประเทศต่างๆกำลังให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งนี่ก็เป็นความร่วมมือที่จริงจังและสร้างกรอบทางกฎหมายที่มั่นคงให้แก่ประเทศภาคีในการป้องกันและต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์”

ในยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านด้านดิจิทัล เสียงพูดและการปฏิบัติของเวียดนามในด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ไม่เพียงแต่ยืนยันสถานะของประเทศที่มีความรับผิดชอบเท่านั้น หากยังเป็นการส่งสารเกี่ยวกับความร่วมมือ ความไว้วางใจและการพัฒนาเพื่ออนาคตดิจิทัลที่สันติภาพและเจริญรุ่งเรืองดั่งคำยืนยันของประธานประเทศ เลืองเกื่อง ก่อนพิธีลงนามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ ณ กรุงฮานอยว่า

“เวียดนามตระหนักได้ดีว่า ในโลกไซเบอร์ที่ไร้พรมแดนปัจจุบัน ต้องสามัคคีและร่วมมือระหว่างประเทศและให้ความเคารพกฎหมายถึงจะสามารถต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์อย่างมีประสิทธิภาพ เวียดนามมีความประสงค์ว่า พิธีลงนามอนุสัญญานี้จะเป็นพื้นฐานให้แก่การส่งเสริมการสนทนา แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนระหว่างรัฐบาล องค์กรระหว่างประเทศ ภาคเอกชนและเป็นฟอรั่มเพื่อส่งเสริมอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์และความร่วมมือโลกในการต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์

ด้วยคำมั่นเข้าร่วมของ 200 ประเทศ พิธีลงนามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ ณ กรุงฮานอย จะเป็นนิมิตหมายทางประวัติศาสตร์ ยืนยันคุณค่าของลัทธิพหุภาคีที่สหประชาชาติเป็นศูนย์กลาง อีกทั้งส่งสารที่เข้มแข็งเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของเวียดนามในการต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์และสร้างสรรค์โลกแห่งสันติภาพ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด