(VOVworld) – วันที่ 7 เมษายน พิธีต้อนรับนาย Plamen Oressharski นายกรัฐมนตรีบัลแกเรียอย่างเป็นทางการได้มีขึ้นอย่างสมเกียรติ ณ กรุงฮานอยซึ่งเป็นการเริ่มกิจกรรมต่างๆในกรอบการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการของนาย Plamen Oressharski การเยือนนี้เป็นโอกาสเพื่อให้ทั้งสองประเทศผลักดันโครงการต่างๆที่เป็นรูปธรรม นำความสัมพันธ์เพื่อนมิตรที่ยั่งยืนพัฒนามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและนำผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมมาให้แก่ประชาชนทั้งสองประเทศ

ท่าน เหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีเวียดนามให้การต้อนรับประธานรัฐสภาบัลแกเรียเมื่อปี 2012

บัลแกเรียเป็นหนึ่งใน 10 ประเทศแรกในโลกที่รับรองและสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับเวียดนามเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ปี 1950ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นให้แก่สัมพันธไมตรีที่มีมาช้านานและความร่วมมือที่ยาวนานระหว่างสองประเทศ เวียดนามจดจำการช่วยเหลือที่ล้ำค่าทั้งด้านวัตถุและจิตใจของบัลแกเรียในภารกิจการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยประชาชาติและพิทักษ์รักษาปิตุภูมิอยู่เสมอ ส่วนในช่วงหลายปีมานี้ ในนโยบายขยายและผลักดันความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆในเอเชีย บัลแกเรียก็ให้ความสนในเป็นพิเศษต่อการผลักดันความสัมพันธ์กับเวียดนาม ความร่วมมือทางการเมืองระหว่างสองประเทศในตลอด 64 ปีที่ผ่านมาได้รับความสนใจและธำรงในระดับสูงอยู่เสมอโดยมีการจัดการเยือนทวิภาคีระหว่างกันและการประสานงานอย่างใกล้ชิดในฟอรั่มทั้งในระดับภูมิภาคและโลก
พื้นฐานที่ยั่งยืนให้แก่ความสัมพันธ์เวียดนาม-บัลแกเรีย
นาย เลดึ๊กลิว เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำบัลแกเรียได้เผยว่า เวียดนามและบัลแกเรียมีความคล้ายคลึงกัน 3 ข้อซึ่งสร้างพื้นฐานที่มั่นคงให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศทั้งในอดีต ปัจจุบันและอนาคต“ก่อนอื่น เวียดนามและบัลแกเรียต่างมีสถานะทางด้านภูมิศาสตร์การเมืองที่สำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งทำให้เวียดนามสามารถเป็นประตูเพื่อให้บัลแกเรียผลักดันความสัมพันธ์กับเอเชีย ส่วนบัลแกเรียก็เป็นสะพานเชื่อมเพื่อให้เวียดนามเจาะตลาดยุโรป โดยเฉพาะประเทศต่างๆในเขตบอลข่าน ประเด็นที่สองคือผ่านระยะต่างๆในประวัติศาสตร์ รัฐบาลทั้งสองประเทศต่างมีความประสงค์ขยายความสัมพันธ์ร่วมมือและผลักดันสันติภาพและเสถียรภาพเพื่อพัฒนา รัฐบาลบัลแกเรียชุดต่างๆก็มีความประสงค์ขยายความร่วมมือกับเวียดนามและถือเวียดนามเป็นหุ้นส่วนสำคัญ ประเด็นที่สามคือ ทั้งสองประเทศต่างมีความปรารถนาที่จะเป็นฝ่ายรุกในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก ใฝ่สันติภาพและเสถียรภาพเพื่อพัฒนาซึ่งสิ่งนี้มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ช่วยให้ทั้งสองประเทศมีความเชื่อมั่นต่อกันยิ่งขึ้นเพื่อผลักดันความร่วมมือ”

นาย เลดึ๊กลิว เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำบัลแกเรีย

แต่อย่างไรก็ตาม นอกจากความร่วมมือทางการเมืองที่ดีงาม ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจได้ถูกมองว่ายังไม่ทัดเทียมกับศักยภาพ ก่อนการเยือนเวียดนามครั้งนี้ ในการให้สัมภาษณ์นักข่าววิทยุเวียดนามประจำยุโรป นาย Plamen Oressharski นายกรัฐมนตรีบัลแกเรียได้ยืนยันว่า บัลแกเรียคาดหวังผลการเยือนเวียดนามครั้งนี้จะนำความสัมพันธ์ทวิภาคีเวียดนาม-บัลแกเรียพัฒนามีประสิทธิภาพและจริงจังยิ่งขึ้นและเวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆในนโยบายต่างประเทศของรัฐบาลบัลแกเรียปัจจุบัน นาย Plamen Oressharski ได้เผยว่า“ในคณะผู้แทนที่เดินทางมาเยือนเวียดนามครั้งนี้ยังมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเกษตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมขนส่งและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและจะลงนามเอกสารสำคัญกับบรรดารัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้องของเวียดนาม ส่วนผู้ประกอบการที่ร่วมในคณะครั้งนี้ก็ยังให้ความสนใจต่อการแสวงหาโอกาสความร่วมมือประกอบธุรกิจกับหุ้นส่วนต่างๆของเวียดนาม อาจกล่าวได้ว่า ผู้ประกอบการบัลแกเรียให้ความสนใจต่อตลาดเวียดนามเป็นอย่างมาก ดังนั้นก็ยากที่จะเลือกตัวแทนสถานประกอบการใดให้เดินทางมาเยือนเวียดนามกับผม ผมหวังว่า การเยือนครั้งนี้ไม่เพียงแต่มีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างสองประเทศให้พัฒนาลึกซึ้งยิ่งขึ้นเท่านั้น หากยังมีส่วนร่วมทำให้ความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจมีความใกล้ชิดยิ่งขึ้นอีกด้วย”
ขยายความสัมพันธ์ร่วมมือทางเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน มูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่างเวียดนามกับบัลแกเรียบรรลุ 70-80 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งสองประเทศกำลังทำการวิจัยรูปแบบความร่วมมือด้านเศรษฐกิจใหม่อย่างเข้มแข็งบนพื้นฐานใช้จุดแข็งของแต่ละประเทศให้เป็นประโยชน์
บัลแกเรียมีจุดแข็งในบางหน่วยงาน เช่นการผลิตเคลื่องจักรกล จัดสรรค์และออกแบบระบบรดน้ำและผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีการเกษตร การแปรรูปอาหาร อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์และเภสัชภัณฑ์ ที่น่าสนใจในการท่องเที่ยวคือ ทุกปี บัลแกเรียต้อนรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ 8-10 ล้านคน ดังนั้นจึงมีประสบการณ์เพื่อช่วยฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ด้านการท่องเที่ยวที่ได้มาตรฐานยุโรปให้แก่เวียดนาม ส่วนในด้านการศึกษา เวียดนามสามารถเข้าถึงระบบการศึกษาที่มีคุณภาพสูงและได้มาตรฐานยุโรปในบัลแกเรียจากการส่งเจ้าหน้าที่ไปฝึกอบรมหรือผลักดันโครงการส่งเสริมให้นักศึกษาเวียดนามไปศึกษาในบัลแกเรีย
ทั้งนี้ต้องทำเช่นไรเพื่อให้ความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนมิตรที่มีมาช้านานมีประสิทธิภาพและจริงจังยิ่งขึ้นคือคำถามของบรรดาผู้นำทั้งสองประเทศได้ตั้งไว้และร่วมกันพยายามหาคำตอบ การที่นายกรัฐมนตรีบัลแกเรียเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการได้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจและความปรารถนาของทั้งสองประเทศในการที่จะสร้างก้าวกระโดดใหม่ให้แก่สัมพันธไมตรีที่มีมาช้านานระหว่างเวียดนาม-บัลแกเรีย./.