เวียดนามมีความเสมอต้นเสมอปลายในการปฏิบัติมาตรการต่างๆ เช่น การปรับปรุงกรอบทางนิตินัยและนโยบายให้มีความสมบูรณ์ ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศและการประชาสัมพันธ์ในการป้องกันและต่อต้านการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในยุทธศาสตร์การปกป้องสิทธิมนุษยชนของเวียดนาม

มาตรการอย่างรอบด้าน

จุดยืนที่เสมอต้นเสมอปลายของพรรคและรัฐเวียดนามคือ ปกป้องและค้ำประกันสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะสำหรับสตรีและเด็ก ดังนั้น เวียดนามให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อการปรับปรุงระบบกฎหมายในด้านนี้ให้มีความสมบูรณ์

ซึ่งกฎหมายการป้องกันและต่อต้านการค้ามนุษย์ปี 2011 กำหนดอย่างชัดเจนเกี่ยวกับความรับผิดชอบของสำนักงานภาครัฐและองค์การสังคมในการป้องกัน การค้นพบ แก้ไขและช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์ ส่วนประมวลกฎหมายอาญาฉบับแก้ไขปี 2015 ได้เพิ่มโทษการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะการกระทำผิดต่อเด็ก และต่อแก๊งค์ค้ามนุษย์ ควบคู่กันนั้น รัฐบาลเวียดนามได้ประกาศใช้โครงการต่างๆ โดยเฉพาะโครงการการป้องกันและต่อต้านการค้ามนุษย์ในช่วงปี 2021-2025 กำหนดแนวทางจนถึงปี 2030

สิ่งที่น่าสนใจคือกฎหมายการป้องกันและต่อต้านการค้ามนุษย์ปี 2024 ที่มีผลบังคับใช้นับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้เพิ่มเติมหลักการที่สำคัญๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของสถานการณ์ที่เป็นจริง สอดคล้องกับอนุสัญญาระหว่างประเทศที่เวียดนามเป็นภาคี โดยเฉพาะหลักการ “ถือเหยื่อเป็นศูนย์กลาง” เพิ่มกลุ่มผู้คนที่ได้รับการปกป้องและเพิ่มการช่วยเหลือเหยื่อ นาง  Mitsue Pembroke  รักษาการหัวหน้าคณะผู้แทนขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐานหรือ IOM ประจำเวียดนามได้ให้ข้อสังเกตว่า

 “พวกเราชื่นชมความคืบหน้าอย่างข้ามขั้นของเวียดนามในงานด้านการป้องกันและต่อต้านการค้ามนุษย์ ซึ่งกฎหมายการป้องกันและต่อต้านการค้ามนุษย์ฉบับแก้ไขที่มีผลบังคับใช้นับตั้งแต่เดือนนี้เป็นหนึ่งในจุดเด่น โดยถือเหยื่อเป็นศูนย์กลางในการจัดทำนโยบาย  ซึ่งการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ช่วยให้เหยื่อทุกคน ไม่ว่าจะเป็นพลเมืองชาวเวียดนาม ชาวต่างชาติในเวียดนาม บุคคลไร้สัญชาติ  ผู้เยาว์ ต่างก็สามารถปรับตัวเข้ากับสังคมได้ดีขึ้น นอกจากนี้ กฎหมายยังเอื้อให้แก่งานด้านการช่วยเหลือเหยื่อในการปรับตัวเข้ากับสังคมและมีข้อกำหนดที่ใกล้ชิดกับข้อกำหนดระหว่างประเทศ”

นาง  Mitsue Pembroke  ยังเผยว่า ข้อกำหนดของกฎหมายฉบับนี้ที่ระบุว่า ต้องให้การช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในระหว่างการกำหนดเป็นเหยื่อนั้นได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์ของรัฐเวียดนาม

ควบคู่กับการปรับปรุงเอกสารกฎหมายให้มีความสมบูรณ์ เวียดนามยังผลักดันการประชาสัมพันธ์และให้การศึกษาแก่ชุมชน ยกระดับจิตสำนึกในการป้องกันการค้ามนุษย์ในเขตที่อาชญากรรมค้ามนุษย์เคลื่อนไหว นาง เหงวียนถิมิงเฮือง รองประธานสมาพันธ์สตรีเวียดนามเผยว่า เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นความได้เปรียบช่วยให้เวียดนามเผยแพร่สารเกี่ยวกับการป้องกันและต่อต้านการค้ามนุษย์และการอพยพแรงงานอย่างปลอดภัยต่อประชาชนทุกชั้นชน

“เราเปิดเวทีให้ผู้บรรยายสามารถพูดคุยกับสตรีและเยาวชนเพื่อช่วยให้พวกเขาตระหนักต่อเล่ห์เหลี่ยมของอาชญากรรมการค้ามนุษย์  เสนอมาตรการและวิธีการปฏิบัติที่มีความคิดสร้างสรรค์ ยกระดับจิตสำนึกเพื่อส่งเสริมบทบาทของสตรีและเยาวชนเดินหน้า โดยเฉพาะสตรีในการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่กฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันและต่อต้านการค้ามนุษย์และการโยกย้ายถิ่นฐานอย่างปลอดภัย”

เวียดนามยังผลักดันความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านนี้ ซึ่งจนถึงขณะนี้ เวียดนามได้ลงนามข้อตกลงทวิภาคีและพหุภาคีเกี่ยวกับการป้องกันและต่อต้านการค้ามนุษย์กับประเทศเพื่อนบ้านและหุ้นส่วนระหว่างประเทศ เช่น จีน กัมพูชา ลาว ไทยและออสเตรเลีย เข้าร่วมฟอรั่มระดับภูมิภาคและโลก ขยายความร่วมมือกับองค์การระหว่างประเทศ เช่น องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐานหรือ IOM สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติหรือ UNODC และกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือ UNICEF เพื่อเพิ่มทักษะความสามารถ แลกเปลี่ยนข้อมูลและช่วยเหลือด้านเทคนิค

การปราบปรามและลงโทษอาชญากรรมการค้ามนุษย์ยังต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ

แม้จะมีความพยายามต่างๆแต่งานด้านการป้องกันและต่อต้านการค้ามนุษย์ในเวียดนามยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆเนื่องจากสถานการณ์การค้ามนุษย์มีขึ้นอย่างซับซ้อนในหลายรูปแบบ พันตำรวจเอก เลหว่างเยือง รองอธิบดีกรมวิเทศสัมพันธ์ของกระทรวงความมั่นคงสาธารณะได้เผยว่า                 “ปัจจุบัน เหยื่อการค้ามนุษย์ไม่เพียงแต่เป็นสตรีและเด็กเท่านั้นหากยังเป็นผู้ชาย ทารก ทารกในครรภ์ และการค้าอวัยวะ เป็นต้น ซึ่งการเคลื่อนไหวของอาชญากรรมการค้ามนุษย์ข้ามชาตินับวันมีความซับซ้อนและในหลายรูปแบบ ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อสิทธิมนุษยชน ส่งผลกระทบในทางลบต่อเศรษฐกิจ-สังคม การเมืองของแต่ละประเทศและเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการกระทำที่ละเมิดกฎหมาย เช่น การอพยพอย่างผิดกฎหมาย แรงงานผิดกฎหมาย การค้ายาเสพติด อาชญากรรมทางโลกไซเบอร์ เป็นต้น”

จากความท้าทายต่างๆ เวียดนามก็จะส่งเสริมการปฏิบัติมาตรการอย่างพร้อมเพรียง รอบด้าน ขยายความร่วมมือพหุภาคีในการต่อต้านการค้ามนุษย์ในโลกให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น.