“บทเพลงแห่งชัยชนะ” พาผู้ชมย้อนกลับไปสู่วินาทีแห่งความซาบซึ้งใจ

(VOVWORLD) - บรรยากาศที่ชื่นมื่นและคึกคักของชาวฮานอยที่ลงท้องถนนต้อนรับขบวนทหารแห่งประชาชนที่ได้รับชัยชนะกลับเมืองหลวงในวันปลดปล่อยกรุงฮานอยเมื่อ 71 ปีก่อน ถูกสะท้อนอย่างมีชีวิตชีวาผ่านการจัดแสดงสิ่งของวัตถุภายใต้หัวข้อ “ บทเพลงแห่งชัยชนะ” ณ โบราณสถานเรือนจำหวาหล่อ ในกรุงฮานอย ซึ่งช่วยให้ผู้ชมย้อนอดีช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์และซาบซึ้งใจดังกล่าว

 
 
“บทเพลงแห่งชัยชนะ” พาผู้ชมย้อนกลับไปสู่วินาทีแห่งความซาบซึ้งใจ - ảnh 1การจัดแสดงแบ่งเป็น ส่วน 

การจัดแสดงแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ความมุ่งมั่นและอดทน ฮานอย – วันกลับแห่งชัยชนะและเสน่ห์แห่งเมืองหลวงฮานอย โดยโซน “ ความมุ่งมั่นและอดทน” เสนอภาพถ่ายและเอกสาร ในช่วงเดือนธันวาคมปี 1946 ที่ขานรับคำเรียกร้องลุกขึ้นสู้ของประธานโฮจิมินห์ กองทัพและประชาชนฮานอยถึงแม้ไม่มีอาวุธที่ทันสมัยแต่ก็กล้าต่อสู้กับนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศสที่แข็งแกร่ง ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นการต่อสู้อันยาวนานและลำบากของประชาชาติเวียดนาม ทหารที่กล้าหาญหลายท่านพร้อมสละชีพโดยถือลันจ์ไมน์พุ่งชนรถถังของฝ่ายศัตรูเพื่อช่วงชิงเอกราชมาให้แก่ประชาชาติ ซึ่งหลายๆ ท่านได้ถูกจับกุมตัวโดยศัตรู ถึงแม้ถูกคุมขังในเรือนจำ แต่ทหารเหล่านี้ยังคงต่อสู้อย่างกล้าหาญต่อไป นาย เหงวียนเตี๊ยนหา หัวหน้าคณะประสานงานนักปฏิวัติที่ถูกศัตรูจับกุมและคุมขังในเรือนจำหวาหล่อกล่าวว่า

“ผมรู้สึกซาบซึ้งใจมากที่รำลึกถึงเพื่อนร่วมรบและชาวฮานอยที่ได้สละชีพเพื่อสามารถเอาชนะและยึดครองกรุงฮานอยให้ได้ ผมเป็นผู้ติดต่อกับพรรคสาขานอกเรือนจำ โดยเราถือเรือนจำเป็นโรงเรียนหรือสมรภูมิแห่งหนึ่ง”

“บทเพลงแห่งชัยชนะ” พาผู้ชมย้อนกลับไปสู่วินาทีแห่งความซาบซึ้งใจ - ảnh 2“ฮานอย – วันกลับแห่งชัยชนะ” (ภาพจากเรือนจำ หวาหล่อ)

ส่วนโซน “ฮานอย – วันกลับแห่งชัยชนะ” จัดแสดงกิจกรรมต่างๆ ในวันประวัติศาสตร์ 10 ตุลาคมปี 1954 ในขณะที่ขบวนทหารเข้ายึดครองกรุงฮานอยท่ามกลางเสียงเชียร์และเสียงปรบมือของชาวฮานอย ถนนหนทางต่างๆ ในกรุงฮานอยเต็มไปด้วยธงและดอกไม้หลากหลายสีสัน เสียงเพลงดังก้องไปทั่ว ผู้คนต่างลงท้องถนนเฉลิมฉลองด้วยความยินดี น้ำตาแห่งความสุขหลังไหลพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าชาวฮานอยทุกคนในวันที่ได้รับการปลดปล่อยอย่างสมบูรณ์ นาย เหงวียนดิ่งเติน อายุ 91 ปี ในเขตเกื๋อนาม กรุงฮานอย เล่าว่า

“เช้าวันที่ 10 ตุลาคม ชาวฮานอยต่างลงท้องถนนเต็มไปหมด ไม่มีใครบอกใคร ทุกคนพากันไปยืนริมถนนสายต่างๆ เช่น โอเจอะเหยื่อ โอเก่าเหย่น ถนนห่างบ่าย โดยโบกธงและดอกไม้ต้อนรับขบวนทหารที่เดินทางเข้ายึดครองเมืองหลวง เราทุกคนต่างรู้สึกดีใจมาก โดยเฉพาะนักเรียนและนักศึกษาบางคนนำเครื่องดนตรีต่างๆ เช่น อัคคอร์เดียนและไวโอลินมาเล่นด้วย”

ในโซน  “เสน่ห์แห่งเมืองหลวงฮานอย” ได้จัดแสดงภาพลักษณ์เกี่ยวกับกรุงฮานอยที่เป็นศูนย์รวมของคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีมาช้านานของประชาชาติเวียดนาม โดยมีการผสมผสานระหว่างความโบราณกับความร่วมสมัย ระหว่างวัฒนธรรมที่มีมาช้านานและชีวิตร่วมสมัย สานต่อประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์ของชาวฮานอยในอดีตเพื่อร่วมกันรักษาและส่งเสริมคุณค่าที่ดีงาม เพื่อมีส่วนร่วมเขียนประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์ของ “เมืองหลวงที่กล้าหาญ” และ “นครเพื่อสันติภาพ” ต่อไป

“บทเพลงแห่งชัยชนะ” พาผู้ชมย้อนกลับไปสู่วินาทีแห่งความซาบซึ้งใจ - ảnh 3ชาวต่างชาติเข้าชม

"บทเพลงแห่งชัยชนะ” ได้รับความสนใจจากผู้ชมจำนวนมาก

“การมาชมการจัดแสดงนี้ช่วยให้เรา ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่สามารถเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับวันแห่งประวัติศาสตร์ 10 ตุลาคม ปี 1954 ดิฉันได้ฟังปู่ย่าตายายเล่าให้ฟังเกี่ยวกับวันปลดปล่อยกรุงฮานอยแล้ว แต่ในตอนนี้สามารถสัมผัสกับบรรยากาศในวันนั้นด้วยตาตนเองก็รู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก”

“ดิฉันพาลูกชายมาชมงานเพื่อช่วยให้ลูกได้สัมผัสและมีความเข้าใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์ โดยเฉพาะวินาทีที่น่าจดจำของกรุงฮานอย เพื่อช่วยให้ลูกตระหนักได้ดีเกี่ยวกับภารหน้าที่สร้างสรรค์กรุงฮานอยให้สวยงามและเจริญรุ่งเรืองมากขึ้นในภายภาคหน้า”

"บทเพลงแห่งชัยชนะ” ไม่เพียงแต่เป็นการสำนึกในบุณคุญต่อผู้ที่ได้สละชีพเพื่อชาติและกรุงฮานอยเท่านั้น หากแสดงให้เห็นถึงความปรารถนาแห่งการก้าวรุดหน้าไป การส่งสารแห่งสันติภาพและมิตรภาพของกรุงฮานอยในยุคแห่งการพัฒนาและผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอีกด้วย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด