(VOVWORLD) - ในระหว่างการเดินทางบนถนนดินไปยังตำบลชายแดนในจังหวัดด่งนาย เราสามารถเห็นหลังคาบ้านใหม่ที่มั่นคง รวมทั้งภาพทหารชายแดนที่ร่วมทำงานกับชาวบ้าน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึง “ยุทธศาสตร์การพึ่งประชาชน” ที่กำลังได้รับการเสริมสร้างให้มั่นคงมากขึ้นในเขตชายแดนภาคตะวันออกตอนใต้
ประชาชนแต่ละคนจะเป็น “นักสู้ไร้ยศ” ที่ร่วมกับกองทัพเวียดนามปกป้องประเทศ |
จากการตระหนักได้ดีเกี่ยวกับทัศนะ ประชาชนในเขตชายแดนแต่ละคนมีส่วนร่วมในการปกป้องพรมแดน ในหลายปีที่ผ่านมา ทหารชายแดนจังหวัดด่งนายได้ร่วมมือกับทางการปกครองท้องถิ่นและประชาชนสร้างสรรค์เขตชายแดนทางบกที่มีความยาวกว่า 258 กม. ซึ่งไม่ใช่แค่ผ่านการปักหลักพรมแดนเท่านั้น หากยังผ่านการสร้างสรรค์ความไว้วางใจและความผูกพันใกล้ชิดระหว่างทหารกับประชาชน ด้วยภารกิจพัฒนาเศรษฐกิจสังคมพร้อมกับการปกป้องอธิปไตยของประเทศ ทหารได้พัฒนาเขตชายแดนที่รกร้างว่างเปล่าให้กลายเป็นเขตชุมชนที่เป็นกำแพงความมั่นคงของประเทศ โดยประชาชนแต่ละคนจะเป็น “นักสู้ไร้ยศ” ที่ร่วมกับกองทัพเวียดนามปกป้องประเทศ
ด้วยคำขวัญที่ว่า“หากประชาชนมั่งมีเขตชายแดนก็มั่นคง” ทหารชายแดนจังหวัดด่งนายเป็นฝ่ายรุกในการร่วมมือกับพรรคสาขาและทางการปกครองท้องถิ่นให้การช่วยเหลือประชาชนในการพัฒนาเศรษฐกิจ จากคำปรึกษาของทหารชายแดน เงินนับล้านล้านด่งได้ถูกใช้นำมาลงทุนในโครงการพัฒนาเขตชายแดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการหมายเลข 811 ภายใต้ชื่อ“จุดชุมชนประชาชนใกล้จุดของทหารบ้านในเขตชายแดน”ได้สร้างโฉมใหม่ให้แก่เขตชายแดน โดยกองบัญชาการทหารจังหวัดได้ก่อสร้างที่อยู่อาศัยจำนวน245 หลังใน12 จุดชุมชนตามแนวชายแดนซึ่ง “หมู่บ้าน” เหล่านี้เป็นทั้งที่อยู่อาศัยของประชาชนและ “แนวระเบียง” ปกป้องอธิปไตยของประเทศ
ทหารชายแดนได้ร่วมมือกับพรรคสาขาและทางการปกครองท้องถิ่นให้การช่วยเหลือประชาชนในการพัฒนาเศรษฐกิจ |
ที่ตำบลหลกหว่า ในอดีตคืออำเภอหลกนิงห์ จุดชุมชนแห่งแรกเริ่มได้รับการก่อสร้างเมื่อปี 2020 ซึ่งตอนแรกมีเพียงบ้านชั้นเดียว 5 หลัง แต่ละหลังมีพื้นที่ใช้สอย 72 ตารางเมตร ใช้เงินก่อสร้าง120 ล้านด่ง มีระบบไฟฟ้าน้ำประปา และพื้นที่ผลิตขนาด 500–5,000 ตารางเมตรต่อครัวเรือน ปัจจุบันนี้ พื้นที่แห่งนี้ได้ขยายเป็นชุมชนที่มีบ้านเรือน 48 หลังและเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของเด็ก ๆ นาง ถิเทอ (อายุ 29 ปี) ซึ่งเป็นหนึ่งในครอบครัวแรก ๆ ที่ย้ายมาอาศัยอยู่ที่นี่ชี้ไปที่สวนข้าวโพดกำลังออกดอกแล้วพูดด้วยความภาคภูมิใจว่า “เมื่อก่อนมีแค่กระท่อมเล็ก ๆ ตอนนี้มีบ้านที่มั่นคงและสวยงามแล้ว มีโทรทัศน์ ตู้เย็น หม้อหุงข้าวไฟฟ้า ชีวิตของเรามั่นคงขึ้นและลูก ๆ ได้ไปโรงเรียน เรามีความสุขเป็นอย่างมาก”
“พอย้ายมาอยู่ที่นี่ชีวิตก็ดีขึ้นชาวบ้านที่นี่สามัคคีกันมากถ้าหากมีเรื่องอะไรก็ช่วยเหลือกันส่วนทหารชายแดนก็ช่วยชาวบ้านพัฒนาเศรษฐกิจด้วย”
ไม่เพียงสร้างบ้านและมอบวัวให้แก่ชาวบ้านเท่านั้น แต่ทหารชายแดนยังอยู่เคียงข้างประชาชนโดยขบวนการ“สามร่วม”คือ ร่วมกินร่วมอยู่และร่วมทำงานได้กลายเป็นเอกลักษณ์ของทหารที่นี่โดยพวกเขาได้บริจาคเงินเดือนเพื่อซื้อสัตว์เลี้ยงและพันธุ์พืชมอบให้แก่ชาวบ้านที่ยากจน พร้อมทั้งร่วมทำงานในไร่กับชาวบ้านในป้อมชายแดนแต่ละป้อม ต่างมีรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจขนาดเล็กเพื่อช่วยปรับปรุงชีวิตและเป็น“ห้องเรียนปฏิบัติการ”ให้ประชาชนเรียนรู้ประสบการณ์ นาง เหงวียนถิห่งแค้ง ชาวบ้านตำบลดั๊กเออ กล่าวด้วยความทราบซึ้งใจว่า
“ทหารชายแดนดั๊กเออได้มอบวัวพันธุ์ใหม่ให้แก่ครอบครัวฉันเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ หลังจากนั้น 1 ปี วัวตัวนั้นก็คลอดลูกครอบครัวเราดีใจมากเพราะชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นและสามารถสร้างฐานะ”
ทหารชายแดนกับเด็กในอุปการะ |
นอกจากนั้น ในตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา โครงการต่างๆ เช่น “สนับสนุนเด็กๆ ไปโรงเรียน” และ ”เด็กในอุปการะ” ของป้อมทหารชายแดนด่งนายได้ช่วยให้เด็กชนกลุ่มน้อยนับร้อยคนได้ไปโรงเรียนต่อไป ขณะนี้ ป้อมทหารชายแดนด่งนายกำลังอุปการะเด็ก8 คนและให้การสนับสนุนเด็กอีก118 คนโดยในจำนวนนี้เป็นเด็กชาวกัมพูชา9 คนและมีเด็กหลายคนได้จบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยและกลับมาพัฒนาบ้านเกิดเด็กชาย เหงวียนซาง นักเรียนชั้นม.1 โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น เถียนฮึงบีซึ่งเป็นเด็กกำพร้าคนหนึ่งกล่าวด้วยความซาบซึ้งใจว่า
“ขอขอบคุณทหารที่ได้เลี้ยงดูผมมาตลอด 10 ปีผมขอสัญญาว่าจะเป็นเด็กดี และตั้งใจเรียนเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณ”
จากการร่วมแรงร่วมใจของทางการปกครองท้องถิ่นและทหารชายแดนจังหวัดด่งนาย ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในเขตชายแดนนับวันดีขึ้นอย่างเห็นได้ชึด โดยชาวบ้านนับวันตระหนักได้ดีต่อภาระหน้าที่ปกป้องเส้นแบ่งพรมแดนและหลักพรมแดน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่พวกเขาถือเป็น “บ้านของตน” อยู่แล้ว ถึงขณะนี้ มี 33 คณะ 169 ครัวเรือนและบุคคลกว่า 200 คนได้ลงนามเข้าร่วมการปกป้องเส้นแบ่งพรมแดนและหลักพรมแดน โดยร่วมกับทหารชายแดนทำการลาดตระเวน ทำการเคลียร์เส้นทางเข้าป่าและรายงานทันทีเมื่อพบความผิดปกติ นาย ซินวอน ชาวบ้านในตำบลฮึงเฟือก กล่าวด้วยความภาคภูมิใจว่า
“ทหารชายแดนและประชาชนที่นี่ได้ร่วมกันปกป้องหลักพรมแดนถ้าหากมีทหารชายแดน พวกเขาจะออกลาดตระเวนแต่ถ้าไม่มีประชาชนที่นี่ก็จะลาดตระเวนเองและหากมีเหตุการณ์ใดๆก็จะแจ้งให้ป้อมทหารชายแดนทราบทันที เรารู้สึกดีใจมากที่ได้ทำหน้าที่นี้เพราะเราต้องให้การช่วยเหลือทหารชายแดนในการปกป้องประเทศ”
เด็กชาย เหงวียนซาง ได้รับของขวัญในเทศกาลไหว้พระจันทร์จากทหารชายแดน |
ส่วนพันโทอาวุโส เหงวียนแองดึ๊ก หัวหน้าป้อมทหารชายแดนจังหวัดด่งนายยืนยันว่า งานด้านการรณรงค์มวลชนถือเป็น “กุญแจทอง” ในการสร้างสรรค์ “ยุทธศาสตร์รักษาประเทศที่พึ่งพาประชาชน” ได้อย่างมั่นคง
“ทหารชายแดนทำหน้าที่ให้คำปรึกษากับพรรคสาขาและทางการปกครองท้องถิ่นในการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ให้แก่ครอบครัวที่ยากจน ช่วยให้พวกเขาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม พร้อมทั้งใช้การสนับสนุนจากผู้ใหญ่บ้านและผู้อาวุโส ผู้ที่มีสมณศักดิ์ในหมู่บ้านร่วมกับทหารชายแดนเผยแพร่นโยบายและปฏิบัติตามแนวทางของพรรคนโยบายและกฎหมายของรัฐอย่างมีประสิทธิภาพ”
ทั้งนี้การช่วยก่อสร้างที่อยู่อาศัยการมอบวัวควาย การมอบทุนการศึกษาและการสังสรรค์กับประชาชนในตอนค่ำถือเป็นกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับประชาชน ช่วยให้ทหารชายแดนจังหวัดด่งนายสามารถสร้าง“แนวป้องกันพิเศษ”นั้นคือจิตใจที่เป็นเอกฉันท์ของชาวบ้านโดยป้อมปราการความสามัคคีคือรั้วที่มั่นคงเขตชายแดนไม่ได้ถูกรักษาด้วยหลักพรมแดนเท่านั้นแต่ด้วยหัวใจที่รักชาติและความตระหนักของประชาชนที่กำลังอาศัยอยู่บนแผ่นดินนี้.