(VOVWORLD) - ในช่วงปลายเดือนตุลาคม ภาคเหนือของจังหวัดท้ายเงวียน ซึ่งคือจังหวัดบั๊กก่านในอดีต เข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวลูกพลับไร้เมล็ดสุดท้ายของปี พลับไร้เมล็ดเป็นผลไม้ประจำฤดูใบไม้ร่วงที่มีชื่อเสียงของท้องถิ่น และยังเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง ช่วยให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น
ที่ตำบลต่างๆในภาคเหนือของจังหวัดท้ายเงวียน มีการปลูกพลับไร้เมล็ดมาเป็นเวลานาน |
ลูกพลับไร้เมล็ดอยู่ในกลุ่มลูกพลับเนื้อหวาน กรอบและหอม ซึ่งแตกต่างจากลูกพลับพันธุ์ทั่วไป ผลไม้ชนิดนี้มีกลิ่นหอม เนื้อกรอบอร่อย ซึ่งเป็นที่นิยมในท้องตลาด ที่ตำบลต่างๆในภาคเหนือของจังหวัดท้ายเงวียน มีการปลูกพลับไร้เมล็ดมาเป็นเวลานาน โดยต้นพลับหลายต้นที่มีอายุเกือบ 100 ปียังคงให้ผลผลิตและคุณภาพที่ดี โดยเฉพาะในตำบลกว๋างบาก นามเกื่อง ด่งฟุก หน่าฝัก บาเบ๋และนาหรี่ เมื่อปีที่แล้ว พื้นที่ปลูกพลับไร้เมล็ดในท้องถิ่นอยู่ที่กว่า 830 เฮกตาร์โดยมีผลผลิตกว่า 2,000 ตัน นาง หวูถิเว้ จากตำบลบาเบ๋ และนาย นงสีเหลิบ ในตำบลนามเกื่อง จังหวัดท้ายเงวียนเผยว่า
“ลูกพลับไร้เมล็ดนี้มีรสชาติหวานมาก ทุกปี ดิฉันขายในตลาดเยอะมาก ลูกค้าบอกว่า ลูกพลับที่นี่อร่อย ขณะนี้ ถนนหนทางดีขึ้นทำให้การขนส่งสินค้าสะดวกขึ้น”
“พื้นที่ปลูกพลับไร้เมล็ดของครอบครัวผมมีประมาณ 6,000 ตารางเมตร ปีนี้ ลูกพลับมีคุณภาพดี และได้ผลผลิตมากกว่าปีที่แล้ว ขายง่ายและได้ราคาดี ผู้ค้าส่งและผู้ค้าปลีกเดินทางมาเก็บลูกพลับถึงที่สวน”
ที่หมู่บ้านหน่าจอม ตำบลด่งฟุก ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ปลูกพลับไร้เมล็ดเป็นจำนวนมากในจังหวัดท้ายเงวียน ชาวบ้านได้ร่วมกันจัดตั้งสหกรณ์ด่งเลยเมื่อปี 2018 ปัจจุบัน สหกรณ์ฯ มีสมาชิกกว่า 20 คน ส่วนผู้ปลูกพลับในหมู่บ้านได้เชื่อมโยงกับสหกรณ์ฯเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการปลูก ดูแลและเก็บผลผลิต นาย หลุกวันเถียบ รองผู้อำนวยการสหกรณ์ด่งเลย ในบ้านหน่าจอม ตำบลด่งฟุก จังหวัดท้ายเงวียนเผยว่า
“พื้นที่ปลูกพลับของสหกรณ์ฯ อยู่ที่ประมาณ 43 เฮกตาร์ เก็บผลผลิตได้ประมาณ 20 เฮกตาร์ ในปีที่ได้ผลดีจะเก็บลูกพลับได้ประมาณ 150 ตัน และในปี 2025 คาดว่าจะได้ผลผลิตประมาณ 60-70 ตัน ชาวบ้านมีความประสงค์ที่จะขยายพื้นที่ปลูกพลับ”
ด้วยการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทำให้สวนพลับเจริญเติบโตได้ดี |
ลูกพลับไร้เมล็ดได้รับการรับรองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์จากกรมลิขสิทธิ์ทางปัญญาเมื่อปี 2010 และติดในกลุ่ม 100 แบรนด์ดังเมื่อปี 2013 ส่งผลให้ลูกพลับเป็นที่นิยมของผู้บริโภค ในปีนี้ ลูกพลับมีราคาตั้งแต่ 20,000 ถึง 25,000 ด่ง/กิโลกรัม เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการขนส่งและลดต้นทุน ตำบลหลายแห่งได้ปรับปรุงถนนไปยังสวนและถนนคอนกรีตไปยังเชิงเขา ช่วยให้การบริโภคสะดวกมากขึ้น ลดต้นทุนและเพิ่มรายได้ ด้วยเหตุนี้ ลูกพลับไร้เมล็ดจึงได้รับความนิยมบริโภคเป็นอย่างมากในจังหวัดทางภาคเหนือ เช่น กรุงฮานอย นครไฮฟองและจังหวัดบั๊กนิง เป็นต้น นักท่องเที่ยวต่างมาเยี่ยมชมสวนลูกพลับ เก็บผลด้วยตนเอง ถ่ายรูปและซื้อเป็นของฝาก ส่งผลให้ลูกพลับไร้เมล็ดท้ายเงวียนเป็นที่รู้จักในจังหวัดและเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ
นอกจากผลิตภัณฑ์ลูกพลับไร้เมล็ดสดแล้ว สหกรณ์ด่งเลยยังเป็นผู้เดินหน้าในการยกระดับคุณภาพและมูลค่าของผลิตภัณฑ์ รวมทั้งขยายตลาดจำหน่ายซึ่งช่วยเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันของผลไม้พิเศษนี้ ในปีนี้ สหกรณ์ฯได้ลงทุนแปรรูปลูกพลับแห้งด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ทำให้ลูกพลับมีเนื้อเหนียวนุ่ม หวาน หอม เก็บรักษาง่ายและขายได้ราคาสูงกว่าลูกพลับสด นาย ด่งวันเลย ผู้อำนวยการสหกรณ์ด่งเลย เผยว่า ปีนี้ สหกรณ์ฯ มีแผนแปรรูปลูกพลับแห้งจำนวน 5-6 ตัน โดยลูกพลับสด 1 กิโลกรัมแปรูปเป็นลูกพลับแห้งได้ 400-500 กรัม
“สหกรณ์เน้นแปรรูปลูกพลับแห้งเพื่อเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ลูกพลับแห้งไร้เมล็ดก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเมื่อจำหน่ายในตลาด”
โดยเฉพาะ ผลิตภัณฑ์ลูกพลับไร้เมล็ดของสหกรณ์ด่งเลยได้รับการรับรองเป็นผลิตภัณฑ์ OCOP ซึ่งผลงานนี้ไม่เพียงแต่ช่วยแก้ปัญหาลูกพลับสดที่ล้นตลาดเท่านั้น หากยังช่วยเพิ่มมูลค่าด้วยการส่งเสริมให้เป็นของฝากที่สามารถเก็บไว้รับประทานได้ตลอดทั้งปี
ลูกพลับไร้เมล็ดช่วยให้หลายครัวเรือนในจังหวัดท้ายเงวียนมีฐานะดีขึ้น |
เพื่อส่งเสริมมูลค่าทางเศรษฐกิจของลูกพลับไร้เมล็ด จังหวัดท้ายเงวียนได้ผลักดันกิจกรรมส่งเสริมการค้าด้วยการแนะนำสินค้าพื้นเมืองบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ประชาสัมพันธ์บนโซเชียลมีเดีย เข้าร่วมงานแสดงสินค้าและเชื่อมโยงกับช่องทางการจำหน่ายต่างๆ ด้วยเหตุนี้ แบรนด์ลูกพลับไร้เมล็ดจึงได้รับการยืนยันและเข้าถึงตลาดได้กว้างขวางขึ้น ส่งผลให้รายได้ของประชาชนเพิ่มขึ้น ในตำบลบางแห่ง ทางการท้องถิ่นได้กำหนดแนวทางที่จะขยายพื้นที่ปลูกลูกพลับไร้เมล็ดต่อไป โดยเชื่อมโยงสินค้าพื้นเมืองกับการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ สิ่งเหล่านี้จะเป็นมาตรการในการเพิ่มมูลค่าและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันที่ยั่งยืนให้แก่ลูกพลับไร้เมล็ดในท้องถิ่น
จากผลไม้พื้นเมืองที่ปลูกบนเนินเขา ลูกพลับไร้เมล็ดที่เป็นของขวัญตามฤดูกาลได้กลายเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมในตลาด ก้าวเดินเชิงก้าวกระโดดและยั่งยืนคือกุญแจสำคัญเพื่อให้ผลิตภัณฑ์เกษตรหลักของที่ราบสูงท้ายเงวียนมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น ยกระดับคุณภาพชีวิตและเพิ่มรายได้ให้แก่ชาวเขา.