(VOVWORLD) - การส่งออกเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญของเศรษฐกิจเวียดนามมายาวนาน มีส่วนช่วยธำรงอัตราการเติบโตในระดับสูง รักษาสมดุลการค้าและสร้างงานทำให้แก่แรงงานหลายล้านคน ในปีนี้ รัฐบาลตั้งเป้าหมายการเติบโตของการส่งออกอยู่ที่ร้อยละ 12 คิดเป็นมูลค่าประมาณ 4 แสน 5 หมื่น - 4 แสน 5 หมื่น 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และได้เปรียบดุลการค้า 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ การส่งออกเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 13 ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ อันเป็นการเปิดโอกาสที่ดี แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อรักษาอัตราการเติบโตในสภาวการณ์ที่เศรษฐกิจโลกมีความผันผวนอย่างซับซ้อน เวียดนามได้ปฏิบัติมาตรการเชิงยุทธศาสตร์ต่างๆอย่างพร้อมเพรียง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรม เหงียนห่งเยียน กล่าวปราศรัยต่อที่ประชุมกับสมาคมและภาคอุตสาหกรรม |
การขยายและเพิ่มความหลากหลายของตลาดเป็นหนึ่งในมาตรการที่เวียดนามกำลังยึดมั่นปฏิบัติ โดยอาศัยข้อตกลงการค้าเสรีหรือ FTA เช่น CPTPP, EVFTA และ RCEP เวียดนามกำลังส่งเสริมการค้าในภูมิภาคที่มีศักยภาพ เช่น ตะวันออกกลาง แอฟริกาและเอเชียใต้ เพื่อลดการพึ่งพาตลาดดั้งเดิมและขยายช่องทางการจำหน่าย สำหรับเรื่องนี้ ในการประชุมกับสมาคมและภาคอุตสาหกรรมเมื่อเร็วๆ นี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรม เหงียนห่งเยียน ได้ย้ำว่า
“สมาคมและภาคอุตสาหกรรมต้องจัดทำแผนการส่งเสริมการค้าที่เหมาะสมกับสถานการณ์และขีดความสามารถของสถานประกอบการ โดยให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ต่อตลาดที่มีข้อตกลงการค้าเสรีที่กำลังใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพ ขยายตลาดไปยังภูมิภาคที่มีศักยภาพ เช่น ยุโรปตะวันออก แอฟริกาและเอเชียใต้ เพื่อเพิ่มความหลากหลายของตลาดและหลีกเลี่ยงการพึ่งพาตลาดแบบดั้งเดิม 2 คือ เดินหน้าเฝ้าติดตาม วิเคราะห์และแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับตลาด นโยบายการค้า ภาษีศุลกากรและมาตรฐานทางเทคนิคในตลาดส่งออกสำคัญๆ เป็นประจำ โดยเฉพาะตลาดที่มีข้อตกลงการค้าเสรีกับเวียดนาม เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องและทันท่วงทีสำหรับการผลิตและกิจกรรมทางธุรกิจของสถานประกอบการ”
นอกจากนี้ เวียดนามยังมุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมหลักๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์ สินค้าเกษตร สิ่งทอเสื้อผ้าสำเร็จรูป สัตว์น้ำและรองเท้า ยังคงมีบทบาทสำคัญต่อการเติบโตของการส่งออก สำหรับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เวียดนามกำลังส่งเสริมการดึงดูดเงินทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่มีคุณภาพสูง เข้าร่วมห่วงโซ่อุปทานโลกเกี่ยวกับเซมิคอนดักเตอร์ ปัญญาประดิษฐ์และพลังงานหมุนเวียนให้ลึกซึ้งมากขึ้น ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและสัตว์น้ำช่วยยกระดับคุณภาพการแปรรูป การระบุแหล่งที่มาและสอดคล้องกับมาตรฐานสีเขียวจากตลาดนำเข้า
สำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอ รองเท้าและเครื่องหนัง การเปลี่ยนผ่านสู่การผลิตที่สะอาด ประหยัดพลังงานและการเพิ่มอัตราการใช้วัตถุดิบภายในประเทศเป็นปัจจัยชี้ขาดเพื่อฟันฝ่าอุปสรรคทางเทคนิคที่เข้มงวดมากขึ้นของยุโรปและสหรัฐ นาง ฟานแทงซวน อุปนายกสมาคมเครื่องหนัง รองเท้าและกระเป๋าถือเวียดนามแสดงความเห็นว่า
“เรามีข้อได้เปรียบคือ มีข้อตกลง FTA 17 ฉบับ ซึ่งถือเป็นพื้นฐานที่ดีเพื่อให้สถานประกอบการเพิ่มความหลากหลายของตลาด แต่อย่างไรก็ตาม ความท้าทายสำคัญในปัจจุบันคือเราต้องปรับต้นทุนให้เหมาะสมที่สุด เนื่องจากตลาดที่เราจำหน่ายสินค้านั้นล้วนเผชิญกับอุปสรรค ดังนั้น ถ้าหากเราต้องการขยายตลาด เราจำเป็นต้องขยายยุทธศาสตร์การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อผลิตสินค้าที่หลากหลายมากขึ้นเพื่อช่วยให้เราเข้าถึงตลาดและผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น”
สถานประกอบการเป็นปัจจัยหลักในการดำเนินยุทธศาสตร์การส่งออก ดังนั้น เพื่อขยายตลาดส่งออก มาตรการสำคัญคือการส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน ควบคู่กับการบรรลุมาตรฐานสีเขียวและการพัฒนาที่ยั่งยืน การรับรองมาตรฐานการพัฒนาที่ยั่งยืนจะเป็นใบเบิกทางสำคัญที่ช่วยให้สินค้าเวียดนามสามารถเจาะตลาดที่มีมาตรฐานเข้มงวด นาง หว่างกวางฝ่อง รองประธาน VCCI ยืนยันว่า
“ในสภาวการณ์ที่หลายประเทศใช้มาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากร ทำให้ข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลมีความเข้มงวดมากขึ้น ส่งผลให้สถานประกอบการต้องลงทุนให้แก่การเปลี่ยนแปลงสีเขียว การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล เพิ่มอัตราการใช้วัตถุดิบภายในประเทศเพื่อลดการพึ่งพาวัตถุดิบนำเข้าเพื่อตอบสนองกฎแหล่งกำเนิดสินค้าและความโปร่งใสของแหล่งกำเนิดสินค้า ในสภาวการณ์ที่เศรษฐกิจโลกมีความผันผวนอย่างซับซ้อน สถานประกอบการเวียดนามจำเป็นต้องมียุทธศาสตร์ที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนมากขึ้นเพื่อเจาะตลาดใหม่ๆ”
นอกจากความพยายามของสถานประกอบการแล้ว นโยบายของรัฐก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน รัฐบาลไม่เพียงแต่เดินหน้าเจรจา แก้ไขอุปสรรคทางการค้าและการฟ้องร้องทางการค้าเพื่อปกป้องผลประโยชน์อันชอบธรรมของสถานประกอบการเท่านั้น หากยังส่งเสริมโครงการด้านการค้าดิจิทัล สร้างแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซระดับโลกที่มีแบรนด์ระดับชาติเข้าร่วมด้วย นาย โด๋หงอกฮึง ทูตการค้าเวียดนามประจำสหรัฐเผยว่า
“เดินหน้าผลักดันโครงการส่งเสริมการค้า งานแสดงสินค้าและนิทรรศการต่อไปเพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์และแสวงหาโอกาสการผลิตเพื่อส่งออกสินค้าที่มีศักยภาพ ส่งเสริมงานด้านการคาดการณ์และเตือนล่วงหน้าเกี่ยวกับคดีฟ้องร้องทางการค้า เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบในทางลบต่อผลการอุทธรณ์ในอนาคต”
ด้วยผลงานในเชิงบวกในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา และมาตรการแก้ไขที่เป็นรูปธรรม เวียดนามมีพื้นฐานที่มั่นคงเพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตของการส่งออกที่ร้อยละ 12 ในปี 2025 การบรรลุเป้าหมายนี้จะช่วยเสริมสร้างสถานะของเวียดนามในกลุ่ม 20 เศรษฐกิจการค้าชั้นนำของโลก.