สหกรณ์ ต๊วนหงอก ขยายพื้นที่การเพาะปลูกในจังหวัดด่งนายและนิงถวน

จากรูปแบบการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ในนครโฮจิมินห์ นาย เลิมหงอกต๊วน พร้อมเพื่อนร่วมงาน 4 คนได้พัฒนาสหกรณ์ ต๊วนหงอก ให้กลายเป็นตัวอย่างเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ด้านการเกษตรในเมืองเนื่องจากการยืนหยัดการทำการเกษตรที่สะอาด  เมื่อผลิตภัณฑ์ได้รับความนิยมจากลูกค้า นาย ต๊วน ได้ลงทุนเพื่อขยายพื้นที่การเพาะปลูกเป็น 1 หมื่นตารางเมตร ซึ่งสหกรณ์ ต๊วนหงอก มุ่งเน้นจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในร้านอาหาร โรงแรมและอพาร์ทเมนท์และผลิตภัณฑ์ทุกชนิดของสหกรณ์ฯได้รับรองเป็ผลิตภัณฑ์ OCOP ระดับ 3 ดาวและผลิตภัณฑ์บางชนิดได้รับการรับรองเป็นสินค้าเวียดนามที่มีคุณภาพสูง นาย เลิมหงอกต๊วน ได้เผยว่า                                                                                             

“เพื่อเพิ่มความหลากหลายของสินค้า เราไม่เพียงแต่ขายผักเท่านั้นหากยังเชิญผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ OCOP อื่นๆ รวมทั้งระบบจำหน่ายสหพันธ์สหกรณ์การค้านครโฮจิมินห์มาเข้าร่วมเพื่อให้ประชาชนในเขตชุมชนสามารถซื้อของอย่างสะดวก”

นาย เจิ่นแทงแอง ผู้อำนวยการบริษัทหุ้นส่วนจำกัด ABZ

ส่วนนาย เจิ่นแทงแอง ผู้อำนวยการบริษัทหุ้นส่วนจำกัด ABZ ได้เลือกแนวทางที่มีความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OCOP คือ เหล้าที่ทำจากเล็บครุฑไซ่ง่อนผ่านการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในระบบการขายปลีกในสนามบินต่างๆ เช่น สนามเตินเซินเญิด สนามบินกามแรงและสนามบินฟู๊ก๊วก ในการปฏิบัติดังกล่าว ทางบริษัท ABZ ได้ใช้ประโยชน์จากโครงการ  OCOP อย่างเต็มที่ เช่น การฝึกอบรม การประชาสัมพันธ์และการเชื่อมโยงด้านการค้า นาย เจิ่นแทงแอง ได้เผยว่า 

“ผมมีความประสงค์ว่า สมาคมเกษตรกรนครโฮจิมินห์และสำนักงานที่เกี่ยวข้องจะมีมาตรการเชื่อมโยงผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ OCOP เพื่อร่วมกันแลกเปลี่ยนประสบการณ์เพื่อยกระดับคุณภาพและปริมาณอย่างพร้อมเพรียง มีชุดผลิตภัณฑ์ OCOP เพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศหรือตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคภายในประเทศอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

 นับตั้งแต่ปี 2019 นครโฮจิมินห์ได้เริ่มปฏิบัติโครงการผลิตภัณฑ์ OCOP และจนถึงเดือนมิถุนายนปี 2025 มีผลิตภัณฑ์ OCOP ระดับ 3 -5 ดาว รวม 419 ชนิด หลังจากที่ควบรวมกับจังหวัดบิ่งเยืองและบ่าเหรีย-หวุงเต่าเข้าด้วยกัน จำนวนผลิตภัณฑ์ OCOP ของนครโฮจิมินห์ได้เพิ่มขึ้นเป็น 920 รายการ ซึ่งเป็นอาหาร สินค้าศิลปะหัตถกรรม ยาสมุนไพร เครื่องดื่มและการท่องเที่ยวแบบชุมชน สถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมได้เป็นฝ่ายรุกในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการผลิต การกำหนดแหล่งที่มาของสินค้า การจำหน่ายและการรักษาลูกค้า

ซึ่งการผลิตผลิตภัณฑ์ OCOP ไม่เพียงแต่สร้างงานทำ เพิ่มรายได้ให้แก่แรงงานเท่านั้นหากยังเชื่อมโยงการผลิตในเขตชนบทกับตลาดตัวเมือง นาย เจิ่นฟู้หลือ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการค้าและการลงทุนนครโฮจิมินห์หรือ ITPC ได้ย้ำถึงบทบาทของการประชาสัมพันธ์ การส่งเสริมการค้าผ่านช่องทางต่างๆ โดยเฉพาะผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่างๆ การจัดแสดงผลิตภัณฑ์ OCOP ในโชว์รูมของ ITPC เป็นส่วนหนึ่งในยุทธศาสตร์การสนับสนุนกลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก ขยายเครือข่ายการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากท้องถิ่นอื่นๆ แต่อย่างไรก็ดี    ถ้าอยากเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์  OCOP ต้องยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์และปฏิบัติตามมาตรฐานต่างๆ เช่น VietGAP , GlobalGAP  นาย เจิ่นฟู้หลือ ยังส่งเสริมให้สถานประกอบการ  OCOP เดินหน้าในการประสานงานกับรูปแบบการท่องเที่ยวชุมชนเพื่อกำหนดเครื่องหมายการค้าและสร้างบรรยากาศการแนะนำผลิตภัณฑ์อย่างมีชีวิตชีวามากขึ้น  

“ผลิตภัณฑ์ต่างๆของสถานประกอบการเวียดนามนับวันได้รับการยกระดับคุณภาพเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งเราต้องผลักดันกิจกรรมการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ลูกค้ารู้จักมากขึ้นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ เชื่อมโยงกับระบบจำหน่าย โดยเฉพาะเครือบริษัทต่างๆเพราะนี่เป็นแนวโน้มสนับสนุนการส่งออกผ่านเครือบริษัทใหญ่ต่างๆ ผมเชื่อมั่นว่า  เมื่อใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่   นี่จะเป็นโอกาสเพื่อให้สินค้าของเราเจาะตลาดต่างประเทศ”

 ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา นครโฮจิมินห์ไม่เพียงแต่เป็นจุดเริ่มต้นของรูปแบบ OCOP ที่มีความคิดสร้างสรรค์เท่านั้นหากยังเป็นที่พึ่งที่มั่นคง ช่วยเหลือด้านการเงิน เชื่อมโยงตลาดและประชาสัมพันธ์เครื่องหมายการค้าต่างๆ ซึ่งการสนับสนุนนี้เป็นพื้นฐานเพื่อให้ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ OCOP พัฒนาอย่างยั่งยืนและมีส่วนร่วมยกระดับคุณค่าเครื่องหมายการค้าเวียดนาม.