เขตบ่าเหรีย-หวุงเต่าในอดีตยืนหยัดเป้าหมายเศรษฐกิจแห่งสีเขียวและเศรษฐกิจหมุนเวียน

ตามแผนการวางผัง พื้นที่ทางทิศตะวันออกของนครโฮจิมินห์ ซึ่งอยู่ในจังหวัดบ่าเหรียหวุงเต่าในอดีต ระยะปี 2021 -2030 และวิสัยทัศน์จนถึงปี 2050 กำหนดแนวทางคือโครงการพัฒนาต่างๆ ต้องค้ำประกันเงื่อนไขขั้นพื้นฐานของเศรษฐกิจแห่งสีเขียว การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ในระดับต่ำและเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งจะเป็นเนื้อหาหลักในกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ในท้องถิ่นและการปรับเปลี่ยนแห่งสีเขียวในด้านต่างๆ โดยเฉพาะการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียน

เพื่อปฏิบัติเป้าหมายดังกล่าว  เขตเศรษฐกิจพิเศษโกนด๋าว ได้ปฏิบัติโครงการ “วิจัยและประยุกต์ใช้รูปแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน” ซึ่งให้ความสนใจต่อการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานหมุนเวียนเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่การใช้พลังงานสะอาดในเขตเศรษฐกิจพิเศษโกนด๋าว การเปลี่ยนผ่านจากการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้า ลดการปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดมลพิษทางสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่การยุติดการใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งในสถานที่ท่องเที่ยว การบริการ มุ่งสู่โกนด๋าวที่ไม่มีขยะพลาสติก นาย เลแองตู๊  เลขาธิการพรรคสาขาเขตเศรษฐกิจพิเศษโกนด๋าว ได้เผยว่า  จากแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน โกนด๋าวจะกลายเป็นสัญลักษณ์ของการพัฒนา การอนุรักษ์และการเปลี่ยนแปลงใหม่ สำหรับงานด้านการอนุรักษ์ระบบเชิงนิเวศป่า-ทะเล โกนด๋าวเน้นผลักดันการปกป้องป่าธรรมชาติ ระบบนิเวศทางทะเล ความหลากหลายทางชีวภาพ การจัดทำข้อกำหนด การแนะนำที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับกิจกรรมการท่องเที่ยวเพื่อค้ำประกันไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ

“อาจยืนยันได้ว่า โกนด๋าวได้พัฒนาอย่างเข้มแข็ง กลายเป็นสัญลักษณ์ของการพัฒนาอย่างกลมกลืนระหว่างการอนุรักษ์กับการเปลี่ยนแปลงใหม่  จากแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน โกนด๋าวเน้นอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งโครงการ “การวิจัยและประยุกต์ใช้รูปแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน”ของโกนด๋าวได้รับการปฏิบัติอย่างเข้มแข็งเพื่อลดขยะ มลพิษทางสิ่งแวดล้อม อนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและทิวทัศน์ทางธรรมชาติ”

สถานประกอบการต่างๆได้เป็นฝ่ายรุกในการปรับเปลี่ยนแห่งสีเขียวเพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย net zero carbon

ปัจจุบัน พื้นที่ทางทิศตะวันออกของนครโฮจิมินห์มีเขตนิคมอุตสาหกรรม 13 แห่ง ซึ่งเขตนิคมอุตสาหกรรมต่างๆกำลังปฏิบัติมาตรการแห่งสีเขียว โดยเฉพาะเขตนิคมอุตสาหกรรมฟู้หมี 2 และฟู้หมี 3 กำลังได้รับความช่วยเหลือขององค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ JICA ในการปรับเปลี่ยนแห่งสีเขียว  ตามการวางผัง ในปี 2030 พื้นที่ทางทิศตะวันออกของนครโฮจิมินห์จะมีเขตนิคมอุตสาหกรรม 24 แห่งและเขตนิคมอุตสาหกรรมการพัฒนาใหม่ 7 แห่ง  เน้นพัฒนาการบริการและสิ่งแวดล้อมในการผลิต นาย หวอแทงฟอง  รองหัวหน้าคณะกรรมการบริหารเขตนิคมอุตสาหกรรม เขตแปรรูปนครโฮจิมินห์ได้เผยว่า ปัจจุบัน เขตนิคมอุตสาหกรรมต่างๆได้มีก้าวเดินต่างเพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย net zero 

“พวกเราจะเดินพร้อมกับสถานประกอบการในการปรับเปลี่ยนแห่งสีเขียว  ต้องพัฒนาเขตนิคมอุตสาหกรรมให้กลายเป็นเขตนิคมอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สถานประกอบการเน้นปรับเปลี่ยนแห่งสีเขียวและพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งจะมีส่วนร่วมต่อการปฏิบัติเป้าหมายที่รัฐบาลได้วางไว้ในการมุ่งสู่เป้าหมาย net zero carbon ในปี 2050”

 พื้นที่ทางทิศตะวันออกของนครโฮจิมินห์มีเงื่อนไขเพียงพอเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียว รองศาสตราจารย์ ดอกเตอร์ ฝุ่งชี้สี รองประธานสมาคมอนุรักษ์ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมเวียดนามเผยว่า อาจประยุกต์ใช้รูปแบบเศรษฐกิจหมุนเวียนในทุกด้านของการผลิตและประกอบธุรกิจในเขตบ่าเหรียะ-หวุงเต่าในอดีต  โดยเฉพาะหน่วยงานปูนซีเมนต์ เหล็กและสารเคมีเป็นหน่วยงานที่มีศักยภาพสูงในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2050

ทั้งนี้ พื้นที่ทางทิศตะวันออกของนครโฮจิมินห์กำลังย่างเข้าสู่ศักราชใหม่ ยืนหยัดกระบวนการพัฒนาแห่งสีเขียว ยั่งยืนและผสมผสานเข้ากับกระแสโลก ร่วมกับทั่วประเทศในการปฏิบัติกระบวนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 ที่รัฐบาลได้ให้คำมั่นไว้ในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาของสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือ COP26 ณ ประเทศอังกฤษ.