ผลกระทบจากความวุ่นวายในซีเรียยากจะคาดเดาได้

(VOVWORLD) - วันที่ ธันวาคม กลุ่มกบฏฮายัต ทาห์รีร์ อัล-ชาม หรือ HTS ในซีเรียได้บุกเข้ากรุงดามัสกัสและทำการโค่นล้มรัฐบาลของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด  ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้สร้างความวุ่นวายทางการเมืองครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศนี้ในรอบ 5 ทศวรรษและอาจส่งผลกระทบที่ยากจะคาดเดาได้ต่อภูมิภาคและโลก
ผลกระทบจากความวุ่นวายในซีเรียยากจะคาดเดาได้ - ảnh 1การล่มสลายอย่างรวดเร็วของรัฐบาลของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาดได้ทำให้ทุกฝ่ายตกใจ รวมทั้งพันธมิตรที่สำคัญของซีเรีย (AFP/TTXVN)

เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกาย กลุ่มกบฏ HTS ในภาคเหนือของซีเรียได้ทำการโจมตีใส่ดินแดนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด และภายในเวลาเพียง 10 วัน ก็สามารถยึดเมืองใหญ่ๆ ได้และเมื่อวันที่ 8 ที่ผ่านมา ก็ได้บุกเข้ากรุงดามัสกัสและโค่นล้มรัฐบาลชุดปัจจุบัน

การล่มสลายอย่างรวดเร็ว

การล่มสลายอย่างรวดเร็วของรัฐบาลของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาดได้ทำให้ทุกฝ่ายตกใจ รวมทั้งพันธมิตรที่สำคัญของซีเรีย โดยกองทัพซีเรียแทบจะไม่สามารถตอบโต้ได้ ยกเว้นการต่อสู้อย่างหนักในพื้นที่รอบๆ เมือง Aleppo ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของซีเรียในวันแรกๆ เท่านั้น และเมื่อเมือง Aleppo ถูกยึดครองเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ทางการของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ก็ไม่สามารถควบคุมเมืองสำคัญๆ เช่น Hama และ Homs ได้ จนในที่สุดก็ต้องสูญเสียกรุงดามัสกัส

ตามความเห็นของบรรดาผู้สังเกตการณ์ การต่อสู้ที่อ่อนแอและการล่มสลายอย่างรวดเร็วของทางการประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด มาจากหลายสาเหตุ โดยเริ่มจากการโจมตีของกลุ่มกบฏ HTS ที่มีขึ้นในช่วงเวลาที่ความสมดุลของอำนาจในตะวันออกกลางกำลังมีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งเป็นกองกำลังในเลบานอนที่สนับสนุนทางการของนาย บาชาร์ อัล-อัสซาด ได้รับผลกระทบจากการต่อสู้กับอิสราเอลในหลายเดือนที่ผ่านมา ส่วนอิหร่านก็กำลังเตรียมพร้อมรับมือการปะทะครั้งใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นกับอิสราเอล ในขณะที่รัสเซีย ซึ่งเป็นพันธมิตรหลักอีกหนึ่งประเทศของซีเซียกำลังทุ่มเทให้แก่การปะทะกับยูเครน ทำให้สามารถสนับสนุนกองทัพซีเรียได้ผ่านกองทัพอากาศที่กำลังประจำการที่ฐานทัพ Hmeimim เท่านั้น อีกสาเหตุที่ทำให้รัฐบาลของประธานาธิบดีอัล-อัสซาดถูกโค่นล้มก็คือปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำย่ำแย่และความอ่อนแอของกองทัพซีเรียที่สั่งสมมายาวนานหลังสงครามกลางเมืองที่กินเวลาถึง 13 ปีและส่งผลให้ชาวซีเรียเสียชีวิตนับล้านคน  

ส่วนชาวซีเรียไม่ได้มีปฏิกิริยาต่อต้านใด ๆ ต่อการโค่นล้มทางการ นาย Haid Haid ผู้เชี่ยวชาญของโครงการตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือของ Chatham House ประเทศอังกฤษ ประเมินว่า

“มีความเป็นไปได้ว่า ชาวซีเรียจะมีชีวิตที่ดีขึ้นในเวลาที่จะถึง หรืออาจเลวร้ายกว่าก็ได้  แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ชาวซีเรียมีทางเลือกมากกว่า 1 ทาง”

ผลกระทบที่ยากจะคาดเดาได้ต่อภูมิภาค

ความวุ่นวายทางการเมืองครั้งใหญ่นี้จะส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่อภูมิภาคตะวันออกกลางและโลกเนื่องจากสถานะทางภูมิศาสตร์การเมืองที่สำคัญของซีเรียและการเชื่อมโยงด้านความมั่นคงที่ซับซ้อนระหว่างกองกำลังต่างๆ ในซีเรียกับปัจจัยจากภายนอก นาย Ibrahim Al-Assil นักวิจัยของสถาบันตะวันออกกลางของสหรัฐให้ข้อสังเกตุว่ากลุ่มกบฏ HTS มีต้นกำเนิดจากกลุ่มกบฏ Jabhat al-Nusra ซึ่งเป็นสาขาหนึ่งของกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ในซีเรีย แต่นับตั้งแต่ปี 2017 มาจนถึงปัจจุบันกลุ่มกบฏ HTS ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปสู่แนวทางยุติความคิดหัวรุนแรงและประกาศหลายครั้งว่า มีความประสงค์ที่จะสร้างสรรค์สังคมอิสลามที่ทันสมัยมากขึ้น การที่กลุ่มกบฏ HTS เผยว่า อยากแบ่งอำนาจกับกองกำลังอื่นๆ ในซีเรียและยังคงธำรงการติดต่อกับทางการของนาย บาชาร์ อัล-อัสซาด ถือเป็นสัญญาณที่น่ายินดีเกี่ยวกับแนวคิดที่รอมชอมของกลุ่มนี้ แต่นาย Ibrahim Al-Assil ยังย้ำว่า จำเป็นต้องระมัดระวังและต้องดูปฏิบัติการของกลุ่มกบฏ HTS ต่อไปเพื่อประเมินสถานการณ์

ส่วนนาย Qutaiba Idlbi นักวิจัยซีเรียของสภาแอตแลนติกก็เห็นด้วยกับความคิดเห็นของนาย Ibrahim Al-Assil โดยถือว่า ผลกระทบจากการโค่นล้มนี้จะต้องใช้เวลาในการประเมินต่อไปในขณะที่กองกำลังต่างๆ ในซีเรียหารือเกี่ยวกับกระบวนการเปลี่ยนผ่าน สำหรับวิธีการเข้าถึงซีเรียของทางการสหรัฐในเวลาที่จะถึง นาย Qutaiba Idlbi ให้ข้อสังเกตว่า

“สำหรับสหรัฐ ไม่มีผลประโยชน์ใดในซีเรียมากกว่าการต่อต้านการก่อการร้าย ยับยั้งกระแสผู้ลี้ภัยหรือป้องกันไม่ให้อิหร่านขยายอิทธิพลไปยังภูมิภาคอื่นๆ นอกเหนือจากสิ่งเหล่านี้ สหรัฐก็ไม่มีผลประโยชน์ใดๆ ต่อโครงสร้างของทางการซีเรียในอนาคต”

ในขณะเดียวกัน การหารือเกี่ยวกับระยะเปลี่ยนผ่านในซีเรียก็ได้รับการผลักดันจากทุกฝ่าย โดยหลายประเทศในภูมิภาคได้ประกาศว่า พร้อมช่วยเหลือซีเรียสร้างเสถียรภาพและจัดทำแผนการเปลี่ยนผ่าน ในการกล่าวปราศรัย ณ ฟอรั่มโดฮา ประเทศกาตาร์เมื่อวันที่ 8 ที่ผ่านมา นาย Geir Pedersen ทูตพิเศษของสหประชาชาติที่ดูแลปัญหาซีเรียได้แสดงความคิดเห็นว่า ถึงแม้กระบวนการฟื้นฟูประเทศซีเรียจะถูกทำลาย มีความยุ่งยากและซับซ้อนแต่นี่ก็เป็นโอกาสสำคัญในการปรับเปลี่ยน

“มีความท้าทายเป็นอย่างมากโดยเราเห็นความกังวลจากประชาชนหลายคนแต่นี่ก็เป็นช่วงเวลาที่ต้องใช้โอกาสเพื่อฟื้นฟูซีเรียด้วยความอดทนเพื่อนำไปสู่การสร้างสรรค์ประเทศซีเรียที่สามัคคีและสันติภาพ”

ในข้อเสนอแรกที่ประกาศเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พันธมิตรแห่งชาติซีเรีย ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มฝ่ายการเมืองที่เป็นฝ่ายค้านของซีเรียในต่างประเทศได้เรียกร้องให้ปฏิบัติระยะเปลี่ยนผ่านภายในเวลา 18 เดือนเพื่อร่างรัฐธรรมนูญและมุ่งสู่การเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งทางกลุ่มกบฏ HTS และฝ่ายต่างๆ ในซีเรียก็ไม่ได้ออกมาคัดค้านข้อเสนอดังกล่าวแต่อย่างใด./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด